เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 54 ที่ห้องประชุม 2 หลังใหม่ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรักษาคามสงบเรียบร้อยจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 6/2554 โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วม โดยนายตรี อัครเดชา ได้กล่าวว่า เนื่องจากขณะนี้เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ส.ส. แล้ว ขอให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเน้นย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และขอให้วางตัวเป็นกลาง รวมถึงช่วยสอดส่องดูแลเพื่อป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงด้วย
“จากการติดตามเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งเรื่องของการซื้อขายบัตรประจำตัวประชาชนและการจดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งพบว่ามีการดำเนินการไปบ้างแล้ว ในขณะที่การซื้อหวยผู้แทนก็ยังคงมีการปล่อยข่าวออกมาเรื่อยๆ ในลักษณะของมวยรองบ่อนที่ให้ผลตอบแทน 6 – 7 เท่า แต่อย่างไรก็ตาม ทาง กกต.ก็ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดชุดเฉพาะกิจทั้งชุดป้องกันปราบปรามและเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อกดดันไม่ให้มีการกระทำผิดได้ นอกจากนี้ยังมีชุดเฉพาะกิจจากนอกพื้นที่เข้ามาดำเนินการร่วมด้วย เพราะเชื่อว่าความเคลื่อนไหวของการซื้อเสียงจะมีความชัดเจนมากขึ้น”
นายตรี กล่าวด้วยว่า ในการลงพื้นที่ของชุดสืบสวนหาข่าวพบข้อมูลและเบาะแสของกลุ่มเป้าหมายที่จะกระทำผิดจำนวนมากทั้งในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 และเขต 2 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวนั้นจะมีการทำงานแบบเป็นกระบวนการ ซึ่งมีทั้งคนจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การเก็บบัตรประจำตัวประชาชน และถือเงิน ขณะนี้ กกต.มีบัญชีคนที่เป็นหัวโจกไม่น้อยกว่า 50 – 60 ราย แต่การจับกุมก็ไม่ใช่สามารถจะทำได้ง่ายๆ เนื่องจากจะต้องมีหลักฐานชัดเจน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (28 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 1 รายในพื้นที่ อ.กะทู้ หลังมีสายรายงานว่ามีการเตรียมการเพื่อจะซื้อเสียง โดยตรวจสอบพบบัญชีรายชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนหนึ่ง และบัตรหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 2 แต่ไม่พบเงิน ซึ่งก็จะได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนกรณีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของอดีตนายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรีเมื่อช่วงดึกของวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้านั้น และได้มีการตรวจยึดเงินสดไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายตรี กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจได้มีการติดตามตรวจสอบข้อมูลมาระยะหนึ่งและมีหลักฐานพอสมควร ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน โดยผู้ที่ถูกตรวจค้นสามารถที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นก็อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อส่งฟ้องศาล และหากทางผู้เสียหายคิดว่าไม่ได้รับธรรมก็มีกระบวนการที่จะฟ้องร้องได้เช่นกัน เพราะในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ต้องการที่จะดำเนินการทุกอย่างเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ และต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความยุติธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น