เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 คณะทำงานตรวจติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการออกโฉนด มาตรการการป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐและการถือครองที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กระทรวง มหาดไทย นำโดยนายสิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย
พร้อมด้วย นายหิรัญ พรหมมา และนายพิษณุ เชิงสมอ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (ฝ่ายการเมือง) พล.ต.ท.จุตติ ธรรมมโนวานิช หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐ กระทรวงมหาดไทย และนายรุจน์ เสาวภานันท์ คณะทำงานตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ นายปราโมทย์ ยามาลี รองอธิบดีกรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
ร่วมตรวจสอบกรณีมีประชาชนร้องเรียนไปยังกระทวงมหาดไทยว่า
มีการบุกรุกปลูกสิ่งปลุกสร้างบริเวณเทือกเขากมลา ต.กมลา และในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อมูล หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยังเทศบาลเมืองป่าตอง ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมี น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
การลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนในครั้งนี้มีด้วยกัน 4 จุด ประกอบด้วย จุดแรกพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักหรูบริเวณแหลมสน ถนนสายรายิ-นาคาเล ม.6 ต.กมลา อ.กะทู้ ซึ่งอยู่ระหว่างการขุดตักหน้าดินเพื่อปรับพื้นที่ทำการก่อสร้าง โดยทางผู้ดูแลโครงการได้นำเอกสารสิทธิ์ และใบอนุญาตขุดตักดินมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ จุดที่ 2 พื้นที่ก่อสร้างโครงการรีสอร์ทหรู ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อกมลา-ป่าตอง ถ.กมลา-ป่าตอง ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่และมีการก่อสร้างอาคารแล้วบางส่วน จุดที่ 3 บริเวณแหลมแดง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งมีการร้องเรียนว่า น่าจะมีการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นพื้นที่ริมหน้าผาสูงติดทะเล โดยยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า และจุดที่ 4 บริเวณเชิงเขาซอยนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งอยู่ระหว่างการขุดปรับหน้าดินบนภูเขา
นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการตรวจสอบพื้นที่และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เนื่องจากได้มีประชาชนชาวภูเก็ตร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทยว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเทือกเขากมลา และมีการขุดตักหน้าดิน เพื่อปรับพื้นที่ในการก่อสร่างบ้านพักหรู และรีสอร์ท หลายจุด รวมทั้งน่าจะมีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งยังได้รับการร้องเรียนจากทาง ส.ส.ของภูเก็ตเองด้วย ขอให้หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะจุดขายของภูเก็ต คือ ความสวยงามของธรรมชาติ และนักท่องเที่ยวเขาก็ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ไม่ใช่ตัวอาคารหรือตึกสูง
“จากการลงพื้นที่ และดูด้วยตาเปล่า เบื้องต้นคิดว่าไม่น่าจะออกเอกสารสิทธิได้ เพราะเป็นพื้นที่ภูเขาและมีความลาดชันค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังมีความเป็นห่วงปัญหาแลนด์สไลด์ เนื่องจากสภาพดินที่ไม่แข็งตัว เมื่อฝนตกหนักและอุ้มน้ำไว้จำนวนมากมีโอกาสที่จะถล่มลงมาได้ และจะสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตด้วย”
นายสิทธิชัย ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นการเบื้องต้น มีการใช้จีพีเอสตรวจสอบ พบบางพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจริง แต่เพื่อให้เกิดความธรรมกับผู้ที่มีเอกสารสิทธิก็ให้นำมาแสดง เพื่อจะได้มีการตรวจสอบที่มาที่ไปว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร หากพบว่าได้มาไม่ถูกต้องก็จะทำการเสนอให้กรมที่ดินทำการเพิกถอนต่อไป รวมทั้งจะต้องให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการด้วย
อย่างไรก็ตามนายสิทธิชัย กล่าวด้วยว่า ในการตรวจสอบนั้นไม่ได้ดำเนินการเฉพาะแปลงที่กำลังทำการก่อสร้าง แต่จะมีการตรวจสอบแปลงที่ก่อสร้างเสร็จแล้วด้วย เพื่อจะได้ไม่เกิดข้อครหาว่ามีการเลือกปฏิบัติ รวมทั้งในส่วนที่ที่ดินซึ่งมีการระบุว่าเป็นของคนในพรรคการเมืองที่ตนสังกัด ซึ่งจะต้องดำเนินการเป็นลำดับแรกๆ เพราะการจะไปตรวจสอบผู้อื่นนั้นก็จะต้องเก็บกวาดบ้านเรือนของตนเองเสียก่อน ซึ่งขณะนี้มีบางพื้นที่ที่มีการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้สั่งเพิกถอนเอกสารไปแล้วในพื้นที่ อ.กะทู้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร แต่ต้องการนำที่ดินที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินกลับมาให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป
ขณะที่พล.ต.ท.จุตติ ธรรมมโนวานิช หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐ กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การดำเนินการภายหลังการตรวจสอบพื้นที่ ในส่วนที่ดำเนินการได้เลย โดยมอบหมายให้ทางสถานีตำรวจภูธรแต่ละพื้นที่เข้าไปดำเนินการ คือ ตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตขุดตักดิน และการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ว่ามีหรือไม่ หากมีก็ต้องดูด้วยว่าได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้หรือไม่ ซึ่งที่ได้สั่งให้ดำเนินการไปแล้ว โดยอยู่ในพื้นที่ทุ่งทอง 1 ราย พื้นที่กะทู้ 2 ราย และพื้นที่กมลา 1 ราย
สำหรับการตรวจสอบของคณะทำงานชุดนี้ ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบเฉพาะที่มีการร้องเรียนและสงสัยว่าจะมีการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพื้นที่ประเภทที่มีการออกเอกสารสิทธิถูกต้อง แต่มีการขุดตักดินโดยไม่ได้รับอนุญาต พื้นที่ประเภทสร้างถนนรถยนต์เข้าไปในเขตพื้นที่ป่า-เขา พื้นที่ป่าชายเลนที่ถูกบุกรุก ที่ดินที่อยู่ระหว่างการของออกเอกสารสิทธิ และที่ดินประเภทคดีถึงที่สุดแล้วและให้มีการยึดกลับคืนมาเป็นของหลวง แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ เช่น พื้นที่บริเวณหาดเลพัง พื้นที่ขุมเหมืองเก่าบริเวณวงเวียนนิมิต เป็นต้น พล.ต.ท. จุตติ กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น