จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ชาวบางเทาร้องอบต.เชิงทะเล แก้บุกรุกที่สาธารณะ



เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 ชาวบ้านบางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวนกว่า 50 คน นำโดยนายเกชา เกราะเหล็ก ประธานชมรมเรือหางยาวอ่าวบางเทา รวมตัวกันที่บริเวณปากคลองเทา เพื่อเรียกร้องให้องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล (อบต.เชิงทะเล) แก้ไขปัญหากรณีการบุกรุกที่สาธารณะบริเวณบ้านเลขที่ 63/4 ม.3 ต.เชิงทะเล เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ และมีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างจำนวน 4 หลัง


เนื่องจากมีผู้สวมรอยอ้างสิทธิ์ไม่ยอมให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ หลังจากที่ผู้ครอบครองรายเก่าได้คืนบ้านหลังดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณะเพื่อให้ประโยชน์ร่วมกัน พร้อมกันนี้ยังได้มีการแสดงสัญลักษณ์ด้วยการนำสีสเปรย์มาฉีดพ่นเขียน ข้อความคัดค้านการบุกรุกใช้ประโยชน์ที่สาธารณะเป็นที่ดินส่วนบุคคลด้วย พร้อมกันนี้ก็ยังได้เดินทางไปพบกับนายไชยวัฒน์ วัตรสังข์ รองนายก อบต.เชิงทะเล เพื่อขอคำตอบในการแก้ปัญหาดังกล่าว 


นายเกชา กล่าวว่า การรวมตัวของชาวบ้านนั้นเพื่อเรียกร้องให้ อบต.เชิงทะเล เข้ามาแก้ไขปัญหาดังลก่าว เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง เนื่องจากเจ้าของเดิมได้ทำหนังสือยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้เป็นที่สาธารณะ แต่กลับมีผู้อ้างสิทธิครอบครอง และไม่ยินยอมให้ชาวบ้านเข้าไปใช้ประโยชน์ ในขณะที่ทาง อบต.เชิงทะเลก็ไม่ได้เข้าไปดำเนินการ จึงรวมตัวกันดังกล่าว


ขณะที่นายรังสรรค์ สาเหล่ เลขาชมรมเรือหางยาวบางเทา กล่าวว่า ที่ดินแห่งนี้เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ทาง อบต.เชิงทะเล เร่งเข้ามาดำเนินการดำเนินการกับผู้บุกรุกให้ออกไป เนื่องจากชายหาดบางเทา ซึ่งมีความยาวกว่า 8 กิโลเมตร แต่มีพื้นที่สำหรับให้ชาวบ้านใช้เดินลงสู่ชายหาดกว้างเพียง 3 เมตรเท่านั้น หากในอนาคตเกิดภัยพิบัติ จะมีการช่วยเหลือได้อย่างไร แต่หากได้พื้นที่ตรงนี้คืนมาชาวบ้านจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งจุดดังกล่าวยังเป็นจุดจอดเรือหางยาว ที่ซ่อมเรือและนำเรือขึ้นฝั่งได้ในช่วงมรสุม


อย่างไรก็ตามจากการหารือร่วมกับนายไชยวัฒน์ วัตรสังข์ รองนายก อบต.เชิงทะเล ซึ่งกล่าวว่า ทาง อบต.เชิงทะเลได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้อ้างสิทธิการครอบครองให้ย้ายและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่มีการออกจากพื้นที่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) จะนำปัญหาดังกล่าวประชุมร่วมกับฝ่ายบริหารเพื่อจะเร่งหาแนวทางในการดำเนินการ


ในส่วนของการทำป้ายประกาศเป็นพื้นที่สาธารณะห้ามใครบุกรุก,ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์และก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งรื้อถอนอาคารปลูกสร้างบางส่วนและปรับพื้นที่ให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น