เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต. โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที แถลงข่าวกรณีมีการนำคลิปบันทึก กรณีเกิดเหตุชายไทยใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้ายร่างกายชายชาวต่างชาติ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่พีเอ็นแมนชั่น หมู่ที่ 5 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต และมีการนำคลิปภาพไปเผยแพร่ภาพผ่านยูทูป สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผู้เสียหาย คือ นาย Tubaev Vasily Vasil ชาวรัสเซีย อายุ 27 ปี ได้เข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา และเข้าพักที่แมนชั่นดังกล่าว แต่ภายหลังเกิด เหตุผู้เสียหาย ได้เดินทางไปพักอาศัย ที่จังหวัดกระบี่ ทั้งนี้จากรายงานของพนักงานสอบสวน ทราบว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ คือนายพัชระ อุตสาหะ อายุ 37 ปี เป็นผู้จัดการบริษัทเอกชนรายหนึ่ง มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ ที่ 5 ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง และพักอยู่แมนชั่นเดียวกันกับผู้เสียหาย
สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุ สืบเนื่องมาจากผู้ต้องหาทราบว่า ผู้เสียหายชาวรัสเซียได้พาภรรยาของผู้ต้องหาไปเที่ยวที่เขาหลัก จ.พังงา ในวันเกิดเหตุได้มีการไปเคาะประตูห้องผู้เสียหาย และเมื่อผู้เสียหายเปิดประตู ทางผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้าย โดยบังคับให้นั่งลงและตบใบหน้าของผู้เสียหาย (มีข้อความในการสนทนา ระหว่างการข่มขู่ต่อว่า ชาวรัสเซียที่พาภรรยาผู้เสียหายไปเที่ยวเขาหลัก จ.พังงา) โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต
จนกระทั่งสืบทราบว่านายพัชระ อุตสาหะ ผู้ต้องหา ทำงานเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องเรือ ต้องออกไปดูแลลูกค้า ตามเกาะต่างๆ และสามารถติดตามตัวมาได้เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยให้การรับสารภาพว่า ทำไปเพราะความโกรธ เนื่องจากผู้เสียหายพาภรรยาไปเที่ยว จากการตรวจห้องพักของผู้ต้องหา พบอาวุธปืนอัดลม และผู้เสียหายยืนยันว่า เป็นกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ข่มขู่ตนเอง นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวน ได้นำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่องรอยบาดแผลที่โรงพยาบาล แพทย์ลงความเห็นว่า ไม่พบบาดแผลตามร่างกาย มีอาการปวดศีรษะ รักษาหายภายใน 3 วัน
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า นายพัชระ อุตสาหะ บุกรุกเคหสถานของผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการโดยทำให้เกิดความกลัวว่า จะเกิดอันตราย และทำให้ผู้อื่นเกิดความตกใจ หรือความกลัวด้วยการขู่เข็ญ และได้มีการสรุปสำนวนสั่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลจังหวัดภูเก็ต และในขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบเสาะ และศาลนัดมีคำพิพากษา ในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ พล.ต.ต.โชติกล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.โชติ ยังกล่าวด้วยว่า คดีนี้ที่เกิดนั้นนั้นแม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เนื่องจากผู้ต้องหาไม่พอใจชาวชายรัสเซียที่มายุ่งเกี่ยวกับภรรยาของตัวเอง จึงได้ก่อเหตุ แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ความสำคัญ เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยวก็จะสั่งให้พนักงานสอบสวนส่งฟ้องศาลดำเนินคดีทุกราย เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างสำหรับผู้ที่จะก่อเหตุต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น