เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2556 นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานคณะทำงานจังหวัดแก้ไขปัญหาน้ำเสียหาดบางเทา พร้อมด้วยนายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล (อบต.เชิงทะเล) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต, นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต
และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงตรวจพื้นที่บริเวณปากคลองบางเทา หมู่ 2 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียภายในคลองบางเทาที่ไหลลงสู่ทะเล หลังจากที่มีประชาชนในพื้นที่ได้ทำการร้องเรียนมาก่อนหน้านี้ร่วม 2 เดือน และทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จากการตรวจสอบสภาพน้ำในคลองบางเทา พบว่าในบางจุดยังคงมีสีดำ โดยเฉพาะบริเวณปากคลองก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเล เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่กองช่างของ อบต.เชิงทะเลอยู่ระหว่างการขุดลอกตะกอนดินและของเสียที่ทับถมอยู่ในลำคลองขึ้นมาพักไว้บริเวณริมตลิ่ง ด้วยการใช้รถแบ็คโฮ เพื่อเปิดช่องทางให้น้ำสามารถไหลเวียนได้สะดวก จึงทำให้มีน้ำที่เน่าเสียถูกระบายลงทะเล ในขณะเดียวกันก็พบว่าน้ำในบางจุดเริ่มที่ใสมากขึ้น
นายสมเกียรติ กล่าวภายหลังการตรวจสอบ ว่า การแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียของคลองบางเทาถือว่าเป็นต้นแบบในการแก้ไขซึ่งใช้การบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน เบื้องต้นได้นำรถแบ็คโฮมาขุดลอกคลอง ทำให้ขณะนี้น้ำในคลองบางจุดเริ่มมีความใสขึ้น เมื่อดำเนินการในส่วนนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะได้มีการเรียกประชุมผู้ประกอบการโรงแรมต่าง ๆ และชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ เพื่อหาทางออกร่วมกันในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล ตามแนวทางที่วางไว้ จะมีการขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการให้ติดตั้งบ่อบำบัดน้ำเสีย ก่อนที่จะปล่อยน้ำลงสู่ลำคลอง และจะมีการขุดลอกคูคลองเป็นระยะๆ รวมทั้งให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันเสนอความคิดเห็น เพื่อพัฒนาให้บริเวณปากคลองบางเทาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต
ขณะที่นายมาแอน สำราญ นายก อบต.เชิงทะเล กล่าวว่า ทาง อบต.เชิงทะเล ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากทางภาครัฐ จำนวน 15 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองบางเทา โดยนำรถแบ็คโฮมาขุดลอกคลอง หลังจากนั้นจะมีการสร้างเขื่อนหินตลอดแนวคลองดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านและโรงแรมลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่คลอง รวมทั้งได้มีการพูดคุยและขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงแรมทั้งหมดให้ติดตั้งบ่อบำบัดน้ำเสีย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย เพราะหากปล่อยไว้ปัญหาดังกล่าวก็จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของตำบลเชิงทะเลมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น