จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คนภูเก็ตสงสัย จัดเวทีหาทางออกประเทศไทยภูเก็ต



ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดภูเก็ต ว่า วันนี้ (20 มิ.ย.56) ที่ศูนย์ประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดให้มีเวที “ประชาเสวนาพูดจาหาทางออกประเทศไทยของจังหวัดภูเก็ต” ขึ้นเพื่อสร้างเวทีเสวนาที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการหาทางออกประเทศไทย 


พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจร่วมกันของสังคมต่อแนวทางการหาทางออกประเทศไทย และเพื่อหาข้อเสนอที่สร้างสรรค์ในการยุติความขัดแย้งและการหาทางออกประเทศไทย โดยมีผู้เข้าร่วมประกอบด้วย ตัวแทนภาคส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนจากหลายภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ต 


ซึ่งก่อนการเสวนาฯ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาฯ ด้วย ท่ามกลางการจัดกำลังรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ซึ่งคอยตรวจบัตรผู้ที่เข้าไปร่วมในการประชุม ไม่เว้นกระทั่งสื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าว สร้างความสงสัยให้เป็นอย่างมาก ว่าจะมาหาทางออกหรือสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น 


อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้จะต้องมีการแจ้งรายชื่อมาก่อน เนื่องจากจะมีการจัดหาค่าเดินทางให้กับผู้เข้าเวที ฯ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องนั่งฟังจนจบการเสวนา โดยมีผู้ใช้เฟสบุ๊ค ชื่อสุลัยมารฑ์ ซึ่งเข้าร่วมในการเสวนาฯ ด้วย ได้โพสต์ข้อความ ว่า เวทีหาทางออกประเทศไทยที่ภูเก็ตจัดขึ้นเพื่ออะไร? ในเมื่อ 1.กำหนดหัวข้อในการเสวนาไว้แล้ว ทำกับว่ารัฐได้กำหนดทิศทางไว้แล้ว แล้วจะมาจัดเวทีหาทางออกเพื่อ.? 


2.ไม่ได้เปิดโอกาสหรือประกาศให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น เท่าที่รู้เชิญมา 3.มีการร้องขอเกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของคนที่จะพูด (มากั๊กไว้ก่อนที่จะได้ไมค์) 4.ได้ข่าวว่าก่อนกลับได้เบี้ยเลี้ยงคนละสองร้อย ทั้งที่จิง...บาทไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการร่วมเวทีซึ่งเป็นเวทีสาธารระว่าควรจะมีการเปิดกว้าง ไม่ใช่จำกัดวงเฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญมา 


สำหรับการเปิดเวทีดังกล่าว สืบเนื่องจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติให้รัฐบาล เพื่อดำเนินการและนายกรัฐมนตรีได้รับทราบผลการดำเนินการของคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) 


พิจารณาศึกษารายละเอียดของคณะกรรมาธิการวิสามัญในประเด็นการส่งเสริมให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเพื่อให้ทุกฝ่ายในสังคมได้เข้าใจถึงสาเหตุแห่งความขัดแย้ง และแนวทางในการสร้างความปรองดอง เพื่อมิให้เกิดความรุนแรงอีก และเวทีการดังกล่าว ถือเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการปรองดองที่จะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจร่วมกันของสังคม 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น