เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต โดยมีคณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมอาทิ พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต อุตสาหกรรมจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด หอการค้าจังหวัดภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมจังหวัด เป็นต้น
ซึ่งในครั้งนี้มีเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรการฯ จำนวน 6 เรื่อง มีทั้งการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้ออาคารชุด บ้านจัดสรร การติดตั้งเสาไฟฟ้าในเขตรั้วบ้านซึ่งเป็นโฉนดของผู้ร้องด้วยเกรงความไม่ปลอดภัย การนำรถไปทำสีรถ การซื้อรถมือสอง และการเช่าพื้นที่ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ มีมติส่งเรื่องให้ สคบ. พิจารณาจำนวน 5 เรื่องส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นดำเนินการ
นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2556 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 จนถึงปัจจุบัน คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดภูเก็ต ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคทั้งหมด จำนวน 79 เรื่อง มีเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จำนวน 41 เรื่อง เพราะเมื่อรับเรื่องแล้วจะต้องแจ้งให้ผู้ถูกร้องหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและชี้แจงข้อเท็จจริง จึงต้องใช้เวลาพอสมควร ส่งเรื่องให้ สคบ.พิจารณา 15 เรื่อง เจราจรไกล่เกลี่ยได้ข้อยุติ จำนวน 23 เรื่อง ผู้บริโภคได้รับการชดเชยเป็นเงิน จำนวน 1,130,214 บาท
ซึ่งเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุด คือ ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา มีจำนวน 48 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของโครงการบ้านจัดสรร รองลงมาเป็นเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ จำนวน 29 เรื่อง อาทิ รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น และไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโฆษณาจำนวน 2 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีการให้คำปรึกษาแก่ผู้บริโภคจำนวน 90 ราย
ขณะที่นายสมเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเกือบทุกเรื่อง เนื่องจากที่ผ่านมาทางคณะอนุกรรมการฯ สามารถที่จะดำเนินการแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้มาที่ร้องเรียนได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะยังมีเรื่องที่ค้างหรืออยู่ในระหว่างการดำเนินการ เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องยาก และไม่ได้อยู่ในอำนาจโดยตรง ไม่สามารถบังคับได้ จำเป็นต้องรอข้อมูลจากหน่วยงานเจ้าของเรื่อง หรือเอกชนที่ถูกร้องชี้แจงข้อเท็จจริง เช่น ปัญหาที่ดิน เป็นต้น
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่ร้องขอความเป็นธรรมส่วนใหญ่จะไม่ได้คาดหวังในเรื่องของตัวเม็ดเงิน แต่เป็นเรื่องของจิตใจที่ต้องการการเอาใจใส่ขากหน่วยงานรัฐที่จะเข้าไปดูแลความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมที่ได้รับ เช่น กรณีการตัดผมไม่ได้ตามแบบที่ต้องการ และมีการร้องเรียนเรียกค่าเสียหายจำนวน 8,000 บาท แต่เมื่อมีการไกล่เกลี่ยก็ยอมลดลงเหลือ 2,000 บาท ซึ่งเงินชดเชยที่ได้นั้นอาจจะมีมูลค่าไม่มาก
แต่อยู่ที่ความประทับใจหรือความรู้สึก เพราะเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินการซึ่งจะมากกว่าด้วยซ้ำไป เป็นต้น ดังนั้นในการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ ชุดนี้ จึงต้องมีความตั้งใจ ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ และสามารถเป็นที่พึงพิงของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้หากผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องของการซื้อสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนมาที่สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต ชั้นล่าง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โทรศัพท์ 076-213203 หรือ ที่ 1567 ได้ในวันและเวลาราชการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น