จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รองผวจ.ชี้จับกุมผู้บุกรุกคลองมุดงหลังมีคนร้อง



เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 บริเวณปากทางเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ชุมชนคลองมุดง หมู่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายสุวัฒน์ บุปผะโพธิ์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต นายพงศภัค เอียบสกุล หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 23 ภูเก็ต 


นอกจากนี้ยังมีนายสาคร ปู่คำ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคภูเก็ต นายสุธี ศิริอนันต์ ปลัดอำเภอ /หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองภูเก็ต นายเจริญ เทวบุตร กำนันตำบลฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต) และกำลังเจ้าหน้า อส.เมืองภูเก็ต จำนวนหนึ่ง 


ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี มีผู้ใช้นามว่า ชาวบ้านชุมชนคลองมุดง หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง ร้องเรียน โดยระบุว่านายมิตร ภูมิ ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านภายในชุมชนคลองมุดง คือ มีการบุกรุกถมดินลำรางสาธารณะบริเวณป่าเลนคลองมุดง หมู่ที่1 ซอยทรงคุณ, มีการย้ายเสาไฟฟ้ามากีดขวางการจราจรบนถนนทำให้การสัญจรของชาวบ้านในชุมชนทั้งหมู่ที่ 1 ต.ฉลอง และหมู่ที่ 1 ต.วิชิต ไม่สะดวก 


และอาจจะทำให้เกิดการเฉี่ยวหรือชนกันได้เพราะเป็นทางโค้ง และมีการเลี้ยงหมูแบบปล่อย โดยหมูป่าที่เลี้ยงไว้นั้นได้เข้าไปบุกรุกกินพืชผักและต้นกล้วยของชาวบ้านที่ได้ปลูกเอาไว้ และกัดกินขยะที่ชาวบ้านได้นำมาทิ้งไว้ที่ถังขยะ ซึ่งชาวบ้านกลัวว่าจะเป็นแหล่งเชื้อโรค และได้กัดทำร้ายชาวบ้านในชุมชนจนได้รับบาดเจ็บ 


อย่างไรก็ตามจากการลงตรวจสอบพื้นที่ซึ่งอยู่ภายในซอยเจ้าฟ้า 3 หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง บริเวณจุดร้องเรียนปากทางเข้าชุมชนมีป้ายขนาดใหญ่เขียนระบุว่า “ถนนเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ชุมชนคลองมุดงฉลอง” พบมีการใช้ดินถมลงไปลำคลองมุดงบางส่วน และบริเวณใกล้เคียงพบมีใช้อิฐบล็อกก่อสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม เพื่อทำเป็นผนังบ้าน และยังพบเสาไฟฟ้าซึ่งล้ำออกไปบนถนน 


และในระหว่างที่มีการตรวจสอบกันอยู่นั้น ได้มีชายคนหนึ่งมาแสดงตัวว่า เป็นผู้เอาดินมาถมลงไปในลำคลองดังกล่าว เพื่อปรับพื้นที่ให้ชาวบ้านในชุมชนได้ใช้สัญจรไปมาสะดวก เพราะมักมีน้ำท่วมขัง พร้อมสอบถามทางเจ้าหน้าที่ว่าใครเป็นผู้ร้องเรียนขอให้มีการระบุชื่อออกมา และนอกจากจะจับกุมตนเองแล้วก็ขอให้จับกุมผู้บุกรุกรายอื่นๆ ทั้งหมดด้วย เพราะด้านหลังชุมชนนี้ซึ่งเป็นพื้นที่หมู่ 3 ต.ฉลองก็มีการบุกรุกอยู่เช่นกัน 


เมื่อมีผู้มาแสดงตัวและยอมรับว่า เป็นผู้ถมคลองดังกล่าว ทางรองผู้ว่าฯ จึงได้สั่งการให้ควบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหากับชายคนดังกล่าว ซึ่งระหว่างนั้นชายคนดังกล่าวก็พยายามติดต่อหาคนที่รู้จัก ทราบภายหลังว่าเป็นผู้ที่แสดงตัวดังกล่าวเป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อในหนังสือร้องเรียน ในระหว่างนั้นก็มีญาติและชาวชุมชนประมาณ 4-5 คน บอกว่าหากจะจับก็ควรจะจับทั้งหมด เพราะยังมีการบุกรุกพื้นที่อีกมาก โดยเฉพาะด้านหลังชุมชนฯ และรู้ด้วยว่าใครเป็นผู้ร้องเรียน


หลังจากนี้ก็จะมีการทำหนังสือร้องเรียนไปเช่นกัน และชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมานายมิตร คอยช่วยเหลือชาวชุมชนมาโดยตลอด ทั้งเรื่องของไฟฟ้าและการปรับปรุงถนนให้สามารถสัญจรไปมาได้สะดวก นอกจากชุมชนหมู่ที่ 1 ฉลองแล้ว ยังมีชาวบ้านชุมชนหมู่ 1 ต.วิชิตก็มาใช้เส้นทางนี้ด้วย โดยพวกตนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา ซึ่งการร้องเรียนครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้ง 


ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ควบคุมตัวนายมิตรไปยัง สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ม.54 บุกรุกครอบครองพื้นที่ป่า และ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 ม.119 ห้ามมิให้ผู้ใดเททิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้หิน กรวด ทราย ดิน โคลน อับเฉา สิ่งของหรือสิ่งปฎิกูลใดๆ ยกเว้น น้ำมันและเคมีภัณฑ์ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ 


หรือทะเลสาบอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้ำไทย อันจะเป็นเหตุให้เกิดความตื้นเขิน ตกตะกอน หรือสกปรก เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และต้องชดใช้เงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียในการขจัดสิ่งเหล่านั้นด้วย 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น