เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต (POC) ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐจังหวัดภูเก็ต (อนุ กบร.ภูเก็ต) ครั้งที่ 2/2556 เพื่อพิจารณาตรวจสอบและให้ความเห็นเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินของรัฐ
และสิทธิในที่ดินของชาวบ้านตามข้อมูลหลักฐานที่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต ที่ดินจังหวัดภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ตลอดจน ผู้แทนเลขาธิการ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐ (กบร.) กลาง
สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้มีการติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบแนวเขตทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ บริเวณทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ป่าเขาขาดหมู่ที่ 6,7,8 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งได้มีการใช้จีพีเอสจับระวางและขึ้นรูปแผนที่เพื่อดำเนินการรังวัดสำรวจแนวเขตที่ชัดเจนต่อไป เบื้องต้นได้เนื้อที่ประมาณ 1,137 ไร่ ในจำนวนดังกล่าวมีบางแปลงออกเอกสารสิทธิ์แล้ว และอยู่ระหว่างการขออกเอกสารสิทธิ์
ซึ่งจะต้องมากรตรวจสอบรายละเอียดต่อไป กับการตรวจสอบแนวเขตทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ป่าเขาแดง หมู่ที่ 1,2,6 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต โดยอยู่ในขั้นตอนของการประสานกับสำนักงานที่ดินในการคิดค่าใช้จ่ายการรังวัดแนวเขต ซึ่งทางเทศบาลตำบลราไวย์จะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งในส่วนของแปลงนี้ได้เคยมีการออกหนังสือสำคัญที่หลวงไปแล้วประมาณ 271 ไร่ จากเนื้อที่ประมาณ 1700 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการครอบครองอยู่แล้ว และจะต้องไปทำการพิสูจน์สิทธิต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มีการติดตามการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินบริเวณสวนป่าบางขนุน อ.ถลาง โดยให้ทำการตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดของสวนป่าฯ ว่ามีเนื้อที่มากน้อยเพียงใด สถานภาพปัจจุบันเป็นอย่างไร และกรณีที่มีการบุกรุกได้แก้ไขปัญหาอย่างไร รวมถึงการเข้าทำกิน หรือร่องรอยการทำประโยชน์ปรากฏเมื่อใดของแต่ละราย รวมทั้งพิจารณากรณีที่มีการเสนอเรื่องการพิสูจน์สิทธิ์ของผู้ที่ครอบครองที่ดินดังกล่าวจำนวน 17 ราย
แต่เนื่องจากยังไม่มีการนำเสนอข้อมูล จึงให้ทางสวนป่าบางขนุนดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละราย มานำเสนอเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้ง เบื้องต้นมีการรายงานว่า พื้นที่สวนป่าบางขนุนซึ่งเดิมมีประมาณ 5,000 ไร่ ปัจจุบันถูกบุกรุก เหลือพื้นที่ประมาณ 794 ไร่เศษ มีราษฎรเข้าครอบครองจำนวน 268 ราย ซึ่งจะต้องไปทำการตรวจสอบว่า การได้มาเป็นเช่นไร ก่อนหรือหลังการประกาศเป็นพื้นที่ป่า
อย่างไรก็ตามนายจำเริญ ได้สั่งการในที่ประชุมด้วย ว่า กรณีของการจัดทำรังวัดแนวเขตเพื่อออกหนังสือสำคัญที่หลวงของทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์ทั้งสองแปลงให้ทางอำเภอเมืองภูเก็ตและท้องถิ่นจัดทำแผนปฏิบัติการในการดำเนินการให้ชัดเจน รวมทั้งให้ทางทั้ง 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง ทำการตรวจสอบทะเบียน นสล.ที่ได้มีการขึ้นทะเบียนไว้แล้วว่ามีจำนวนเท่าใด และสถานภาพ ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร นอกจากนี้ขอให้หาวิธีการในการจัดทำแนวเขตที่สาธารณะให้มีความชัดเจน รวมถึงการจัดทำป้ายและแผนที่ของที่ดินแต่ละแปลงด้วย เพื่อจะได้ช่วยกันรักษาแผ่นดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น