เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2556 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (แท็กซี่มิเตอร์) ในจังหวัดภูเก็ต
เพื่อพิจารณาค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร และพิจารณาพื้นที่เฉพาะเพื่อกำหนดค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ อาทิ อัยการจังหวัดภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนตัวแทนผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์ในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
สำหรับการประชุมดังกล่าว สืบเนื่องจากกระทรวงคมนาคมได้มีประกาศกำหนดค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (แท็กซี่มิเตอร์) ในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2546 นั้น ปรากฏว่าในปัจจุบันต้นทุนการเดินรถ ค่าเชื้อเพลิง และค่าแรงได้ปรับตัวสูงขึ้น เป็นเหตุให้ผู้ประกอบการฯ ต้องแบกรับภาระต้นทุนดังกล่าว โดยไม่ได้ปรับค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ แต่อย่างใด
ซึ่งอัตราค่าจ้างบรรทุกผู้โดยสารในปัจจุบันที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ส่งผลให้ผู้ขับรถบางรายเอาเปรียบหลอกลวงผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวโดยไม่ใช้มาตรวัดค่าโดยสาร (มิเตอร์) ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต จึงได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถแท็กซี่มิเตอร์ และพิจารณาพื้นที่เฉพาะเพื่อกำหนดค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารสำหรับรถแท็กซี่มิเตอร์ ได้แก่ ท่าเรือสาธารณะ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และพื้นที่สาธารณะอื่นๆ เนื่องจากปัจจุบันเน้นเฉพาะสนามบินภูเก็ต
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับค่าโดยสารในปัจจุบัน ซึ่งเริ่มต้นจากสนามบินภูเก็ต มีการคำนวณระยะทาง 2 กม.แรก 50 บาท ระยะทางเกินกว่า 2 กม. – กิโลเมตรที่ 22 คิดอัตรากิโลเมตรละ 7 บาท ระยะทางเกินกว่า 22 กม.ขึ้นไป กิโลเมตรละ 6 บาท และมีค่าเซอร์วิสชาร์ท 100 บาท เหตุที่ต้องคิดในราคาดังกล่าว เนื่องจากว่ารถโดยสารรับได้เพียงขาเดียว
แต่เนื่องจากยังขาดข้อมูลมารองรับการขอปรับขึ้นราคาที่ชัดเจน
นายจำเริญ กล่าวสรุปว่า เพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้อง และสามารถอธิบายได้ จึงขอให้แต่ละหน่วยงานรวมถึงผู้ประกอบการไปตรวจสอบรายละเอียดและหาข้อมูลมาสนับสนุนการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารดังกล่าวที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เช่น อัตราค่าเชื้อเพลิงที่ปรับขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ค่าแรง เป็นต้น และมาประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น