จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เจ้าท่าภูเก็ตติวเข้มคนประจำเรือเจ็ตสกี



เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2556 ที่ห้องประชุมอรุณรัตน์ โรงแรมป่าตอง รีสอร์ท อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการอบรมคนประจำเรือ เพื่อแก้ปัญหาร้องเรียนกรณีเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต จัดขึ้น 


โดยมี นายวิชัย คำคง ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคนประจำเรือเจ็ตสกีจาก 6 ชายหาด ประกอบด้วย หาดกะตะ-กะรน, หาดป่าตอง, หาดกมลา, หาดบางเทา และหาดเกาะนาคา เข้าร่วมประมาณ 100 คน ใช้เวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 29-30 สิงหาคมนี้ 


นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีเกิดปัญหาร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้บริการเรือเจ็ตสกีในจังหวัดภูเก็ต ทำให้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ การท่องเที่ยวภายในจังหวัดภูเก็ต สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต จึงได้จัดอบรมคนประจำเรือเจ็ตสกี ขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนาบุคลากร เพราะคนประจำเรือเจ็ตสกีเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนในจังหวัด ประจำปีงบประมาณพ.ศ.2556 เป็นเงิน 216,500 บาท 


ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจและเพิ่มทักษะแก่คนเรือเจ็ตสกีเกี่ยวกับกฎหมายด้านการขนส่งทางน้ำ หลักการเดินเรือเบื้องต้น กฎจราจรเกี่ยวกับการเดินเรือ และมาตรการเพื่อความปลอดภัย ในการเดินทางทางน้ำ เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีแก่คนประจำเรือเจ็ตสกีและผู้ที่เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ และการเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้านการท่องเที่ยว รวมถึงเพื่อป้องกันและลดอุบัติภัยอันเกิดจากการขับขี่เรือเจ็ตสกีด้วย 


ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต กล่าวฝากกับคนประจำเรือที่เข้ารับการอบรม ว่า ในการประกอบธุรกิจอยากให้มีการเคารพในกติกาที่ได้มีการกำหนดไว้ร่วมกัน, จะต้องมีกฎระเบียบ มีจริยามารยาท มีความสุขุมสุภาพ, มีความธรรมในการให้บริการ, มีความปลอดภัยทั้งในส่วนของตัวเรือเจ็ตสกีและคนประจำเรือ และสุท้ายต้องมีความภาคภูมิใจที่ได้ให้บริการ เพราะผู้บริการเปรียบเหมือนกับเป็นทูตต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน 


อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับการจัดเรียบเรือเจ็ตสกีของจังหวัดภูเก็ตนั้น ได้มีการออกประกาศจังหวัดภูเก็ตเมื่อปี 2554 กำหนดนโยบายจัดระเบียบการประกอบธุรกิจเรือเจ็ตสกีในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อความปลอดภัย ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนอยู่ภายใต้กรอบระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลดีด้านการท่องเที่ยว โดยอนุญาตให้จดทะเบียนไว้ 286 ลำ 


พร้อมกันนี้ก็ได้มีการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหา โดยมีการกำหนดโซนที่สามารถให้ใช่เจ็ตสกีได้ 6 ชายหาด ได้แก่ หาดกะตะ-กะรน จำนวน 38 ลำ, หาดป่าตอง 170 ลำ , หาดกมลา 26 ลำ, หาดบางเทา 40 ลำ และหาดเกาะนาคา 12 ลำ, ควบคุมเรือเจ็ตสกีให้อยู่ที่ 286 ลำ , เรือเจ็ตสกีทุกลำจะต้องมีการทำประกันภัยชั้น 1 (ภาคสมัครใจ) และประกันภัยคนโดยสาร (ภาคบังคับ), เรือเจ็ตสกีทุกลำจะต้องมีสังกัดชมรมเรือเจ็ตสกี ก่อนที่จะยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาตใช้เรือหรือจดทะเบียนใหม่จะ ต้องได้รับการรับรองจากชมรมฯ และอยู่ในรายชื่อที่อนุญาต, กรมเจ้าท่าได้ออกกฎหมายให้เปลี่ยนประเภทการใช้เรือเจ็ทสกีจากเดิมเป็นประเภทสำราญกีฬา เป็นประเภทกิจการพิเศษ (เจ็ตสกีเพื่อเช่า)เป็นการเฉพาะ,มีการออกกฎหมายกำหนดเขตการใช้เรือเจ็ตสกี, 


ห้ามมิให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาจังหวัดอื่น เปลี่ยนเขตการเดินเรือเจ็ตสกีมาใช้ในจังหวัดภูเก็ต, ในการทำสัญญาเช่าเรือให้มี 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษและรัสเซีย,จัดทำสติ๊กเกอร์สีส้ม มีสัญลักษณ์ ตรากรมเจ้าท่า ติดไว้บริเวณหัวเรือเจ็ตสกีทุกลำ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบและควบคุมจำนวน, ควบคุมดูแลให้ผู้ประกอบการแจ้งเรื่องสัญญาเช่าเรือ 


เงื่อนไข ข้อตกลงหรือการเรียกร้องค่าเสียหาย ตลอดจนการจ่ายค่าสินไหมประกันภัยทดแทน, ให้ผู้ประกอบการต้องอบรมให้ความรู้ และสวมใส่เสื้อชูชีพให้นักท่องเที่ยวทุกคนก่อนให้เรือ และจัดประชุมชี้แจงผู้ประกอบการชมรมเจ็ตสกีท้องถิ่นและภาคส่วนเกี่ยวข้องและจริงจังต่อเนื่อง รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ออกหน่วยบริการเพื่อประชาสัมพันธ์และความสะดวกในการบริการจดทะเบียนเรือใหม่หรือต่อใบอนุญาตใช้เรือ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น