จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

ตร.ภูเก็ตแถลงผลงานจับกุมใน 1 เดือนที่ผ่านมา



เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2556 ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (มค.3) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ เป็นประธานแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในเมืองท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ในห้วงระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม-25 กันยายน 22556 ในโอกาสเดินทางมาประชุมสรุปผลการปฏิบัติตามคำสั่งปฏิบัติการจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ 


เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มักเกิดขึ้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญตามจังหวัดที่มียุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.พิชิต ควรเตชะคุปต์ ประธานอนุกรรมาธิการการศึกษา เรื่องการร้องทุกข์ด้านการท่องเที่ยว และคณะอนุกรรมาธิการฯ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรสี รองผบช.ภ.8 พ.ต.อ.พีรยุทธ การะเจดีย์ และพ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตลอดจนผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องทุกสถานีในจังหวัดภูเก็ตร่วม 


ผลการระดมปฏิบัติการในห้วงดังกล่าว ซึ่งเป็นระยะต่อเนื่องจากระยะแรก มีหน่วยงานร่วมปฏิบัติในพื้นที่ รวม 7 หน่วย ประกอบด้วย กก.ตชด.42, กก.8 บก.รน., กก.2 บก.ปส.4 บช.ปส.4 บช.ปส., ตม.จว.ภูเก็ต, ตม.ทอ.ภูเก็ต, ส.ทล.1 กก.7 บก.ทล., กก.5 บก.ทท. พร้อมทั้งอาสาสมัครต่างๆ ได้แก่ การตรวจสอบประวัติ และพฤติการณ์แวดล้อมเกี่ยวกับชาวต่างชาติ ประกอบด้วย การตรวจสอบหนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว จำนวน 1,509 ราย 


ส่วนใหญ่ถูกต้องตามกฎหมาย ตรวจสอบโรงแรมเกสต์เฮาส์ บ้านเช่าฯ 306 แห่ง มีการดำเนินการกับเจ้าบ้าน เจ้าของหรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรมซึ่งรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยแล้วไม่แจ้งเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชม.นับแต่เวลาคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย จำนวน 35 ราย และมีการจับกุมความผิดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 135 ราย (เปรียบเทียบปรับ) จับกุมความผิดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 135 ราย ผู้ต้องหา 137 คน 


ขณะที่การดำเนินการเกี่ยวกับบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพล จำหน่ายสินค้า และบริการโดยมีพฤติกรรมหลอกลวง เอารัดเอาเปรียบ ข่มขู่ ทำร้ายนักท่องเที่ยว มีการดำเนินการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์/ทรัพย์สินทางปัญญา 123 ราย ผู้ต้องหา 123 คน และจับกุมรถรับจ้างผิดกฎหมาย 742 ราย ผู้ต้องหา 742 คน 


ในส่วนของการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ได้ดำเนินการ จำนวน 1,086 จุด จับกุมที่จุดตรวจ จุดสกัด จำนวน 2,732 ราย ผู้ต้องหา 2,733 คน แบ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร 1,028 ราย ผู้ต้องหา 1,028 คน พ.ร.บ.รถยนต์ 1,612 ราย ผู้ต้องหา 1,612 คน ขับรถขณะเมาสุรา 27 ราย ผู้ต้องหา 27 คน ยาเสพติด 15 ราย ผู้ต้องหา 16 คน อาวุธมีด 41 ราย ผู้ต้องหา 41 คน อาวุธปืน 5 ราย ผู้ต้องหา 5 คน นอกจากนี้ยังมีการปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งดำเนินการ 281 จุด มีผลการจับกุม 90 ราย/ผู้ต้องหา 91 คน แบ่งเป็น ยาเสพติด 32 ราย ผู้ต้องหา 33 คน พ.ร.บ.อาวุธปืน 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 10 ราย ผู้ต้องหา 10 คน พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว 34 ราย ผู้ต้องหา 34 คน และอื่นๆ 12 ราย ผู้ต้องหา 12 คน 


อย่างไรก็ตามในการตรวจสอบสถานที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม เช่น สถานบริการ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านคาราโอเกะ ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง สวนสาธารณะ แหล่งอบายมุข แหล่งมั่วสุม เป็นต้น มีการดำเนินการตรวจสอบ 5,602 แห่ง จำนวน 4,928 ครั้ง, ในการตรวจยึดรถต้องสงสัย ดำเนินการ รวม 351 คัน แบ่งเป็น ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 349 คัน และตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน, การจัดทำประวัติกลุ่มเสี่ยง บุคคลพ้นโทษ บุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว มีการดำเนินการจัดทำประวัติ 2,984 ราย แบ่งเป็น กลุ่มเสี่ยง 2,254 ราย บุคคลพ้นโทษ 478 ราย บุคคลที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว 173 ราย และเกี่ยวข้องกับเงินกู้นอกระบบ 79 ราย 


ทางด้านผลการจับกุมคดีต่างๆ จำนวน 2,014 ราย ผู้ต้องหา 2,142 คน ที่สำคัญ เช่น จับกุมคดีค้างเก่า 51 ราย ผู้ต้องหา 51 คน อาวุธปืน/เครื่องกระสุนปืน 44 ราย ผู้ต้องหา 45 คน ยาเสพติด 372 ราย ผู้ต้องหา 411 คน ละเมิดลิขสิทธิ์/เครื่องหมายการค้า 123 ราย ผู้ต้องหา 123 คน รถรับจ้างผิดกฎหมาย 742 ราย ผู้ต้องหา 742 คน มัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย 27 ราย ผู้ต้องหา 27 คน ติดต่อชักชวนแนะนำตัวเพื่อการค้าประเวณี 293 ราย ผู้ต้องหา 293 คน หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 177 ราย ผู้ต้องหา 177 คน ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 48 ราย ผู้ต้องหา 48 คน และอยู่เกินกำหนด 276 ราย ผู้ต้องหา 276 คน


พล.ต.อ.วุฒิ กล่าวว่า จากผลปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ ในห้วง 40 วันนั้น พบว่า มีความชัดเจนในการดำเนินการ และปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซากลดน้อยลง นอกจากนี้ยังพบว่าคดีฆ่า ข่มขืน หรือชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวที่ร้ายแรงก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งจากการประเมินผลพบว่านักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นในการปฎอบัติงานของทางเจ้าหน้าที่มากกว่า 80% ส่วนกรณีที่ได้เน้นย้ำให้ตรวจสอบชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยเกินกำหนด เนื่องจากคนกลุ่มนี้เมื่ออยู่ไปนานๆ ก็จะสร้างปัญหา มีการทะเลาะเบาแว้งกันเอง ในขณะที่เรื่องของกลุ่มผู้มีอิทธิพลต่างๆ ก็ลดน้อยลง ส่วนที่ยังมีปัญหาก็ให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น