เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2556 ที่ศาลจังหวัดภูเก็ต นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานเปิดส่วนคดีท่องเที่ยวในศาลจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ต่อจากศาลจังหวัดพัทยา เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่นักท่องเที่ยวที่มีคดีความให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมด้วยความสะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม
โดยมีนายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายนิรัตน์ จันทพัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 นายสมศักดิ์ ขวัญแก้ว อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 8 นายปัญญา เชาวลิตถวิล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดภูเก็ตในฐานะประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา ผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า แนวคิดในการเปิดส่วนคดีนักท่องเที่ยวในศาลจังหวัดภูเก็ตนั้น เป็นนโยบายของศาลยุติธรรมที่จะจัดระบบงานคดีให้มีความเหมาะสมกับคดีแต่ละประเภท โดยเฉพาะที่คดีที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีความแตกต่างจากคดีทั่วไป โดยภารกิจสำคัญของส่วนคดีนักท่องเที่ยว ได้แก่ การให้คำแนะนำและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในการดำเนินคดีให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว หรือกรณีที่นักท่องเที่ยวต้องรีบเดินทางออกนอกประเทศก็จะทำการสืบพยานนักท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้า
และอาจจะแต่งตั้งให้ผู้แทนของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลคดีแล้วแจ้งผลให้ทราบต่อไป หรือหากนักท่องเที่ยวตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา และประสงค์จะแจ้งให้สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลประเทศของตนทราบเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการให้ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ตลอดจนเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศได้รับความเป็นธรรมภายใต้ระบบกฎหมายไทยโดยเท่าเทียมกัน
อย่างไรก็ตามการเปิดส่วนคดีท่องเที่ยวนั้น ได้เปิดแห่งแรกไปแล้วที่ศาลจังหวัดพัทยา เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคดีเรือสปีดโบ๊ทชนกับเรือขนส่งนักท่องเที่ยวที่แหลมบาลีฮายส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คน เสียชีวิต
ซึ่งศาลได้ทำการไกล่เกลี่ยจนได้ข้อยุติเป็นที่พอใจแก่คู่กรณีภายในเวลา 1 วัน สร้างความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของไทยให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และภายในสิ้นปีนี้ศาลยุติธรรมมีกำหนดเปิดส่วนคดีท่องเที่ยวในศาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว สำคัญอีก 5 แห่ง ได้แก่ ศาลจังหวัดกระบี่ ศาลจังหวัดเกาะสมุย ศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลแขวงปทุมวัน และศาลแขวงดุสิต นายวิรัชกล่าว
ขณะที่นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเสริมว่า การเปิดส่วนคดีท่องเที่ยวนั้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ซึ่งได้กำชับให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพยายามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ทั้งกระทรวงยุติธรรมหรือจังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของศาล ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจว่า
เมื่อเกิดคดีที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวแล้วเขาจะได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ ในการพิจารณาจะต้องทำให้นักท่องเที่ยวมีความพึงพอใจ เช่นกรณีคดีสปีดโบ๊ทที่พัทยาซี่งมีนักท่องเที่ยวเสียชีวิต และได้มีการไกล่เกลี่ยจนญาติของนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิต
เกิดความพึงพอใจการทำงานของศาลที่เปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม ตลอดจนการจ่ายเงินชดเชยต่างๆ และภายในปี 2556 นี้ สำนักงานศาลยุติธรรมจะดำเนินการเปิดศาลท่องเที่ยวเพิ่มอีก 5 แห่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ศาลจังหวัดกระบี่ ศาลจังหวัดเกาะสมุย ศาลแขวงเชียงใหม่ ศาลแขวงปทุมวัน และศาลแขวงดุสิตด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น