พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเยาวชนสัมพันธ์ต้านภัยยาเสพติด รุ่นที่ 1/2554 ซึ่งทางสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ร่วมกับเทศบาลตำบลวิชิต อ.เมืองภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ว่า ขณะนี้มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยพื้นที่ที่มีความรุนแรงมากที่สุด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช รองลงมา คือ พื้นที่เมืองท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาในแต่ละพื้นที่ได้มีการจับกุมทั้งในส่วนของผู้เสพและผู้ค้าอย่างต่อเนื่อง
“ตำรวจภูธรภาค 8 เน้นให้ความสำคัญในเรื่องของการปราบปรามและป้องกัน รวมทั้งเพิ่มมาตรการในการกวดขันจับกุมผู้กระทำความผิด แต่การดำเนินการจะต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากขณะนี้กลุ่มพ่อค้ายาเสพติดส่วนใหญ่จะมีอาวุธที่ทันสมัย และพร้อมที่จะต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา เช่น กรณีการเข้าตรวจค้นที่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีการใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามการปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ซึ่งจะต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มงวด และเน้นย้ำแนวทางการปฏิบัติว่าผู้ค้าหรือผู้เสพไม่ใช่ศัตรู ดังนั้นในการดำเนินการจะต้องไม่ใช้ความรุนแรง แต่ขณะเดียวกันในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานด้วย”
พล.ต.ต.พิสัณห์ กล่าวด้วยว่า ส่วนปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทราบว่ามีเส้นทางในการลำเลียงทั้งทางเครื่องบิน ทางรถและทางเรือ โดยเมื่อเร็วๆ นี้มีการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติดมาจากต่างประเทศผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ตแล้ว 2 ราย ส่วนการลักลอบขนเข้ามาทางรถก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่จะต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากปัจจุบันจุดตรวจภูเก็ตยังไม่มีเครื่องมือในการตรวจจับที่ทันสมัย ซึ่งเรื่องนี้จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อพิจารณาในเรื่องของการติดตั้งเครื่องมือตรวจจับยาเสพติดที่ทันสมัย เพื่อป้องกันการนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พิสัณห์ ยังกล่าวถึงการปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในเมืองท่องเที่ยว ว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เนื่องจากพบว่ามียาเสพติดบางประเภทซึ่งบ้านเขาสามารถใช้ได้ แต่เมื่อนำมาใช้ในเมืองไทยจะมีความผิด จึงจำเป็นที่จะต้องมีการประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจ เพื่อความเข้าใจตรงกันในการปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศไทย ส่วนของการค้าจะเป็นลักษณะของรายเล็กๆ จำนวนในกลุ่มของเขาเองซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น