เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2554 ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์ ผู้ช่วย.ผบ.ตร.(สส) เป็นประธานการประชุมติดตามการปราบปราม-ป้องกันแกงค์โจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 8 โดยมี พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตัวแทนแต่ละจังหวัด เช่น พ.ต.อ. วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง.ผบก.ภ.จ.ระนอง พ.ต.อ.วรวิทย์ ปานปรุง รอง.ผบก.ภ.จ.พังงา ตลอดจนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรใน จ.ภูเก็ต เข้าร่วม และรายงานผลการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ในจังหวัดภูเก็ต
โดย พ.ต.อ.เอกวุฒิ เสน่ห์พร ผกก.สืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต รายงานต่อที่ประชุมว่า ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้มีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยายนต์ (ศปจร.ภก.) ซึ่งในปีงบประมาณ 2554 มีการโจรกรรมรถยนต์จำนวน 26 ราย จับกุมได้ 5 ราย ซึ่งจะเป็นลักษณะของการเช่าแล้วนำไปขายต่อในพื้นที่ต่างๆ
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมเครือข่ายน.ส.เชอรี่ ผิวสะอาด ซึ่งมีพฤติกรรมเช่ารถยนต์ไปขายต่อให้กับพ่อค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยทำมาแล้ว 14 คัน นอกจากนั้นยังมีเครือข่ายนายธนาวุฒิ ขุนหมื่น และนางสาวนนฤทัย กลิ่นนิล ซึ่งมีพฤติกรรมเช่ารถไปขายต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้ศาลจังหวัดภูเก็ตได้ออกหมายจับเลขที่ จ.104 ข./2552 และ หมายจับเลขที่ จ.104ก./2552 ขณะที่การโจรกรรมรถจักรยานยนต์มีจำนวน 95 ราย จับกุมได้ 57 ราย ส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยกลุ่มวัยรุ่น ด้วยการชำแหละชิ้นส่วนไปขาย เพื่อซื้อยาเสพติกและหาเงินเที่ยว หรือทำไปด้วยความคึกคะนอง
พล.ต.ท.ระพีพัฒน์ กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้มและสถิติการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ค่อนข้างสูง ทั้งในรูปแบบแกงค์โจรกรรมตามใบสั่ง เพื่อส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน กับกลุ่มวัยรุ่นที่ขโมยแล้วแยกชิ้นส่วนขายให้กับร้านค้าปลีกและร้านซ่อมในพื้นที่ รวมไปถึงขโมยแล้วนำไปใช้ เนื่องจากในภูเก็ตมีจำนวนรถจักรยานยนต์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีสถิติสูญหายมาก โดยกรณีส่งขายเพื่อนบ้านจะส่งออกทางจังหวัดระนอง ซึ่งมีทั้งการส่งขายทั้งคันและชำแหละชิ้นส่วน
ทั้งนี้จากสถิติการโจรกรรมรถในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ยังมีปริมาณที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับในภาคตะวันออกหรือจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยภาพรวมทั้งประเทศปัจจุบันจะมีการจับกุมการลักลอบนำเข้ารถหรูหรือการนำเข้าชิ้นส่วนของรถจากต่างประเทศเพื่อนำมาประกอบเป็นตัวรถและหลีกเลี่ยงภาษีมากกว่าการโจรกรรมรถไปขายประเทศเพื่อนบ้านเพราะได้มีการทำข้อตกลงกันไว้แล้ว พล.ต.ท.ระพีพัฒน์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น