เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2554 ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการสัมมนาแกนนำเครือข่ายประชาชนป้องกันการทุจริตตามโครงการประชาศึกษาและชุมชนสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางคณะกรรมการเครือข่ายประชาชนป้องกันการทุจริตจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาตระหนักถึงปัญหาการทุจริต รวมทั้งผลเสียหายที่กระทบต่อทุกคนในสังคม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม สร้างแกนนำเครือข่ายประชาชนระดับตำบล/อำเภอ/จังหวัดให้สามารถขับเคลื่อนกิจกรรม และกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยมีแกนนำเครือข่ายประชาชนที่สนใจมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต แกนนำเครือข่ายประชาชนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายองค์กรเอกชน และแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านเข้าร่วม
นายจรัญ ธัญญอุดร ประธานเครือข่ายประชาชนป้องกันการทุจริตจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มอบหมายให้สำนักงาน ป.ป.ช.ดำเนินโครงการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเพื่อเป็นการสร้างแกนนำเครือข่ายประชาชนที่จะเป็นผู้นำในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในท้องถิ่นและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปีงบประมาณ 2554 คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงได้อนุมัติงบประมาณให้จังหวัดจำนวน 2 โครงการ 3 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 เปิดเวทีความคิดคณะกรรมการเครือข่ายประชาชนกับการมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต กิจกรรมที่ 2 การสัมมนาแกนนำเครือข่ายประชาชนป้องกันการทุจริต ตามโครงการประชาศึกษาและชุมชนสัมพันธ์ และกิจกรรมที่ 3 การเสวนาเครือข่ายประชาชนกับการมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริต
ขณะที่นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การทำงานในเรื่องของการตรวจสอบการทุจริตเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก แต่จริงๆ แล้วการทำงานของหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นอยู่ในสายตาของประชาชนอยู่แล้ว เพียงแต่จะได้รับความสนใจมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวๆ และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของการทำลายสิ่งแวดล้อม การบุกรุกที่สาธารณะ การปล่อยน้ำเสียลงทะเล การขุดตัดภูเขาในชุมชน ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นปัญหาการทุจริตอย่างหนึ่งหรือการไม่ใส่ใจของผู้รับผิดชอบ หากปล่อยปละละเลยก็จะก่อให้เกิดผลกระทบตามมาด้วย ดังนั้นกำลังภาคประชาชนจึงมีส่วนสำคัญในการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น