จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

กรรมการบริหารเอฟซี ภูเก็ตประกาศลาออก



เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2555 ที่ร้านอาหารไม้หมอน อ.เมือง ภูเก็ต นายนฤเบศร์ อายุรพงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอฟซี ภูเก็ต 1688 จำกัด ประกอบด้วย พร้อมด้วย จ่าเอกสรนันท์ เสน่ห์ กรรมการและนายอาซีส อร่ามเมธาพงษา ผู้จัดการทั่วไปของทีมสโมสรเอฟซีภูเก็ต ได้ร่วมกันแถลงข่าวพร้อมทั้งประกาศลาออกจากการทำทีมเอฟซี ภูเก็ต
ทั้งนี้นายนฤเบศ ได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อ 2 – 3 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีคำถามเกิดขึ้นเยอะมาก ว่า "ทำไมเมืองทองฯถึงไม่เข้ามาช่วย" และ " คณะบริหารชุดนี้ทำงานไม่โปร่งใส" ซึ่งตนนั้น ติดใจมาก กับคำถามท้ายนี้ โดยตนจะขอแจ้งรายละเอียด ว่า งบประมาณค่าใช่จ่ายในปีนี้ทั้งหมด อยู่ที่ 34,611,097 บาท ทาง อบจ.ภูเก็ต รวมไปถึงนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ได้ควักเงินส่วนตัวให้ด้วย รวม 17,148,600 บาท ยังขาดทุน ในปีนี้ กว่า 5 ล้านบาท ตนเองขอบอกว่า ได้เริ่มทำฟุตบอล ตั้งแต่ดิวิชั่น 2 โดยตอนนั้น ยังเป็น มังกรทะเล ต่อมาก็มาเป็น เอฟซีภูเก็ต ทาง อบจ.ภูเก็ต สนับสนุนงบประมาณมาให้ และมีค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด 16 ล้านกว่า โดยตอนที่ตนทำดิวิชั่น 2 ต้องขายบ้าน ไป 1 หลัง รถยนต์ 1 คัน
ต่อมาขึ้นเป็นดิวิชั่น 1 ก็มีสปอนเซอร์ เข้ามาช่วยบ้าง และค่าขายบัตรเข้าชม ทั้งปีจบฤดูกาล ได้เงิน 2,447,923 บาท ค่าขายของที่ระลึก 1,796,000 กว่าบาท สปอนเซอร์ที่ได้รับมา มี ยามาฮ่า ให้ 1 ล้านบาท ไอโมบาย 1 ล้านบาท ลีโอเบียร์ ตกลงว่าจะให้ 3 ล้าน แต่จ่ายมาจริง เพียง 1.5 ล้านบาท ค่าถ่ายทอดสดทางเคเบิล ทีวี ให้มา 2 แสนบาท ค่าถ่ายทอดสดทางสยามทีวี ให้มา 4 แสนบาท ป้ายในสนามทั้งหมด เก็บได้ 8 แสนบาท ซึ่งเราจะต้องมีค่าใช่จ่ายเฉพาะ เงินเดือนเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา ทั้งสิ้น 19 ล้านกว่าบาท อบจ. ให้มา เพียง 17 ล้านกว่าบาท ซึ่งมันก็ยังไม่พอเพียง ต่อการจ่ายเงินเดือนเบี้ยเลี้ยงให้นักกีฬา ยังติดลบ ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ไปแข่งขัน หรือระหว่างการแข่งขัน ทุกอย่าง และ ค่าใช้ให้ กามาร่า อัลเม็ด นักเตะที่ช๊อคกลางสนามระหว่างการแข่งขัน ต้องควักเงินจ่ายเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งทางสโมสร ต้องเลี้ยงดูอยู่ จนปัจจุบันเป็นเวลา 1 ปีแล้ว สรุปว่า อบจ.ให้เงินมานั้น ทั้งปีก็ไม่พออยู่แล้ว แล้วว่าตนทำงานไม่โปร่งใส หรือ ทั้งๆที่ต้องขายบ้าน ขายรถแล้วยังหาว่าบริหารไม่โปร่งใส
ด้านจ่าเอกสรนันท์ ระบุว่า ที่ผ่านมาจากการทำทีมในดิวิชั่น 2 ได้รับการสนับสนุนจากทีมเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเป็นโค๊ช หรือตัวผู้เล่นบางคน จนกระทั่งทีมได้เลือนชั้นจะดิวิชั่น 2 ขึ้งไปแข่งขันในดิวิชั่น 1 ทางทีมก็ยังได้รับการสนับสนุนด้วยดีตลอดมา จนทีมอยู่ในอันดับต้นๆ ตลอดมา จนกระทั่งในช่วงก่อนจะจบฤดูกาล2554 ที่ผ่านมา ทางทีมได้ประสบปัญหาทางด้านการเงิน จนกระทั่งนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ ได้ลาออกจากการเป็นประธานสโมสร ทำให้นักแตะระสำระส่ายจนกระทั่งจบฤดูกาล ทีมเอฟซีภูเก็ตตกมาอยู่ในอันดับที่ 9 ของตาราง ประกอบกับไม่มีผู้บริหารสโมสร ทำให้ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารทีมสโมสรเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ซึ่งทางผู้บริหารมีความสนใจ พร้อมทั้งตั้งงบประมาณเอาไว้ในการบริหารทีมประมาณ 36 ล้าน แต่สุดท้ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการใช้สนามสุระกุล ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ดูแลอยู่ จึงทำให้ทางเมืองทองจึงถอนตัวไป
ก่อนที่จะสิ้นสุดการแถลงข่าว ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอฟซี ภูเก็ต 1688 จำกัด ได้ประกาศลาออก พร้อมทั้งประกาศว่าจะวางมือจากทีมสโมสรเอฟซี ภูเก็ต หากมีผู้ที่มีใจรักฟุตบอลจริงๆ ที่สนใจที่จะทำทีมสโมสรเอฟซีภูเก็ต โดยให้นำเงินมาวางไว้จำนวน 15 ล้าน เพื่อให้เกิดความมั่นใจที่จะบริหารสโมสรเอฟซีภูเก็ตได้ ก็ขอให้นำแผนการทำทีมมาคุยกับกรรมการบริหารบริษัท เอฟซี ภูเก็ต 1688 จำกัด ภายในวันจันทร์ ที่ 30มกราคมนี้ เพื่อจะได้จัดทำข้อตกลง พร้อมทั้งส่งรายชื่อผู้บริหารและทีมเข้าร่วมการแข่งขันดิวิชั่น 1 ในฤดูกาลที่จะมาถึงภายในวันที่ 31 มกราคม 2555 ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น