จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

ปชป.ประชุมสาขาพรรคในภูเก็ต



เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 28 มกราคม 2555 ที่หอประชุมโรงเรียนสตรีภูเก็ต ได้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 ของพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต สาขาลำดับที่ 115 และสาขาที่ 183 และการสัมมนาส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย โดยนายวีระศักดิ์ สุขสมบูรณ์ ประธานสาขาพรรคลำดับที่ 115 ประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 พร้อมกับคณะกรรมการได้รายงานผลการดำเนินงานและงบการเงินของสาขา จากนั้นนายสมศักดิ์ หลักแหลม ประธานสาขาพรรคลำดับที่ 183 ประจำเขตเลือกตั้งที่ 2 พร้อมคณะกรรมการรายงานผลการดำเนินงานและงบการเงินของสาขา เพื่อให้ที่ประชุมทราบและรับรอง ซึ่งในการประชุมใหญ่ประจำปีทั้ง 2 สาขาพรรคครั้งนี้ มีนางอัญชลี วานิชเทพบุตร ส.ส.ภูเก็ตเขต 1 ในฐานะนายทะเบียนพรรค นายเรวัต อารีรอบ ส.ส.ภูเก็ตเขต 2 เข้าร่วมพร้อมเสนอโมเดลภูเก็ต เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาภูเก็ตและเตรียมพร้อมรับมือประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน กกต.ภูเก็ต มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ทั้งนี้ได้มีการบรรยายพิเศษโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรค ในหัวข้อ ทิศทางประเทศไทยในศตวรรษใหม่ โดยเริ่มด้วยการขอบคุณชาวภูเก็ตที่ได้เลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 เขต พร้อมระบุว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา ชาวใต้ได้วางวางใจลงคะแนนให้ผู้สมัครของพรรคฯ ด้วยคะแนนสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ และในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงแห่งความท้าทายทางการเมืองของพรรคฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับการสบประมาทว่าจะเหลือ ส.ส.ทั่วประเทศเพียง 10 ที่นั่ง พร้อมกับมีข่าวปล่อยว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคจะถอดใจจะไม่เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ ยังคงมุ่งมั่นนำพาพรรคต่อไป พร้อมเน้นสร้างความเท่าเทียมของประชาชนในทุกระดับ เห็นได้จากสมาชิกพรรคและประธานสาขาพรรคแต่ละแห่งที่มาจากทุกสาขาอาชีพเข้ามามีส่วนร่วมและร่วมกำหนดนโยบายการทำงาน
นายสาทิตย์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ชาวไทยกำลังผจญกับภัยคุกคามทางความมั่นคงรูปแบบใหม่ สถาบันพระมหากษัตริย์ กำลังถูกบุคคลบางกลุ่มให้ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนเพื่อให้สถาบันมัวหมอง มีการเปลี่ยนจากทุนเสรีนิยมไปสู่ทุนนิยม ซึ่งทางพรรคและคนไทยจะต้องช่วยกันปกป้องในเรื่องนี้ และต้องมีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคนภูเก็ตซึ่งส่วนใหญ่จะใช้และเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียกันเป็นจำนวน ก็จะต้องมาร่วมเป็นกำลังสำคัญในการที่จะต้องปกป้องสถาบัน ให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามนอกจากปัญหาดังกล่าวแล้ว ในเรื่องของปัญหาเศรษฐกิจก็น่าเป็นห่วง เพราะนโยบายในช่วง 6 เดือนของรัฐบาลที่ผ่านมา เริ่มส่งผลกระทบกับค่าครองชีพของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการปรับขึ้นราคาพลังงานทั้งเรื่องของน้ำมันและแก๊สหุงต้ม การลดหนี้สาธารณะโดยการจะขายหุ้น ปตท.และการบินไทย รวมไปถึงปัญหาราคาพืชผลเกษตรที่ตกต่ำ การรับจำนำข้าวที่ประสบผลสำเร็จ ตลอดจนปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากความพยายามในการที่จะแก้ไขกฎหมายในรัฐธรรมนูญมาตรา 112 การแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหม การเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักธุรกิจเป็นอย่างมาก ในขณะที่รัฐบาลบอกว่าจะพยายามสร้างความปรองดองแต่เครือข่ายทั้งสมาชิกพรรคบางกลุ่มและคนเสื้อแดงกลับดำเนินการในทางตรงกันข้าม รวมไปถึงปัญหาอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นอีก เพราะงบประมาณการฟื้นฟูปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงปีกลายยังได้ไม่ถึง 10% และยังไม่มีแผนงานรับมือที่ชัดเจน นายสาทิตย์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น