จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555

พระปลอมระบาดในแหล่งท่องเที่ยว

นายฉัฏฐ์ปวิชญ์ จินาพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตกำลังประสบกับปัญหาผู้แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์หรือพระปลอม ที่เดินทางเข้ามาหากินเป็นจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและสร้างความเสียหายให้กับพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชาวต่างประเทศที่ถือหนังสือเดินทางหรือพาสพอร์ตนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะมาจากประเทศเขมร โดยมีการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์และออกบิณฑบาตหากินกับชาวต่างชาติ หวังปัจจัยตัวเงินเป็นหลัก เหตุที่ยืนยันว่าเป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากหากเป็นพระสงฆ์ไทยจะทราบว่าหลังจากเวลา 08.00 น.แล้วไม่สามารถที่จะออกบิณฑบาตได้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาสามารถจับกุมและนำส่ง ตม.เพื่อผลักดันกลับประเทศไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย

“ส่วนกรณีของผู้แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ที่เป็นคนไทยนั้นก็มีเช่นกัน สามารถสังเกตจากการออกบิณฑบาตซึ่งจะขาดความสำรวม สายตาคอยมองหาผู้ที่จะมาใส่บาตร และในการออกบิณฑบาตก็จะเน้นปัจจัยที่เป็นตัวเงินมากกว่าอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการตรวจสอบและจับกุมได้หลายรายเช่นกัน สาเหตุที่มีผู้แต่งกายเลียนแบบสงฆ์มาหากินที่ภูเก็ตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเมืองเศรษฐกิจ และกรณีที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างเขาก็ไม่สามารถที่จะแยกแยะได้ว่าพระรูปใดเป็นพระจริงหรือพระปลอม”

นายฉัฏฐ์ปวิชญ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบขณะนี้แนวโน้มของพระปลอมที่เดินทางมาหากินในจังหวัดภูเก็ตมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งทางตำรวจพระหรือพระวินยาธิการคอยสอดส่องดูแลอยู่ประจำ โดยแบ่งการทำงานอำเภอละ 3 รูป ประกอบด้วยอำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกะทู้และอำเภอถลาง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานฯ ร่วมด้วย โดยจะกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลที่มีนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ป่าตอง กะตะกรน เป็นต้น แต่ก็ยังไม่ทั่วถึงเนื่องจากจำนวนเจ้าหน้าที่มีจำกัด ซึ่งก็ได้ขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละพื้นที่ช่วยอีกทางหนึ่งด้วย

การตรวจสอบเบื้องต้น ด้วยการขอดูเอกสารรับรองการเป็นพระซึ่งหากมีพระจริงจะต้องพกติดตัว รวมถึงการประพฤติปฏิบัติตน เพราะหากเป็นพระภิกษุจริงต้องมีความสำรวมไม่ไปเที่ยวเดินอยู่ริมชายหาดหรือมีการบิณฑบาตในช่วงกลางวัน หากทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามีการแต่งกายเลียนแบบพระสามารถดำเนินการจับกุมดำเนินคดีได้เลย โดยมีความผิดตามกฎหมายอาญา ปรับไม่เกิน 3,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ส่วนกรณีพระจริงแต่ประพฤติปฏิบัติตนไม่เหมาะสมจะต้องแจ้งมายังสำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อประสานไปยังตำรวจพระในการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนที่จะมีการลงโทษต่อไปนายฉัฏฐ์ปวิชญ์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น