จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

“จี้อี่” ควงลูกทีมกลุ่มคนหนุ่มลงสมัครชิงชัยอีกสมัย



เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตและสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต โดยในวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดสมัคร ปรากฏว่ามีผู้มาลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีจากกลุ่มคนหนุ่มเพียง 1 คน คือ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา หัวหน้ากลุ่มฯ อดีตนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต จึงได้หมายเลข 1 เป็นหมายเลขประจำตัว


ส่วนของผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งมีจำนวน 4 เขตเลือกตั้ง มีผู้สมัครเขตละ 6 คน โดยกลุ่มคนหนุ่มส่งผู้ลงสมัครครบทั้ง 4 เขต ได้หมายเลขประจำตัว 1 – 6 ในขณะที่เขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้สมัครอิสระ 1 คน คือ นายอนันท์ ขอมงคลธารากุล ซึ่งมาก่อนเวลารับสมัคร และได้มีการทำข้อตกลงร่วมกัน ได้หมายเลขประจำตัวหมายเลข 7 


ทั้งนี้ทางเทศบาลนครภูเก็ต ได้จัดพื้นที่ให้กับกองเชียร์ของผู้สมัครฯ บริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคารสำนักงานเทศบาล ปรากฏว่ามีกองเชียร์ของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งฯ กลุ่มคนหนุ่มมาให้กำลังใจกับผู้สมัครฯ เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยจะมีการรับสมัครไปจนถึงวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 16 มิถุนายน 2555 นี้ 


นายธวัชชัย ทองมั่ง ปลัดเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งไว้ที่ประมาณ 60 % จากจำนวนผู้มีสิทธิประมาณ 40,000 คนเศษ โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ในทุกรูปแบบ ทั้งการติดป้านโฆษณา การจัดรถประชาสัมพันธ์และการจัดขบวนรณรงค์ตามชุมต่างๆ 


ด้าน น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต หมายเลข 1 กล่าวว่า นโยบายที่ใช้ยังคงเน้นการสร้างนครภูเก็ตให้เป็นนครแห่งความสุข และน่าอยู่อย่างยั่งยืน โดยเป็นการต่อยอดโครงการที่ดำเนินการไว้แล้วในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งสร้างสรรค์และสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษา การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพลิกฟื้นเศรษฐกิจในเมือง และเสริมสร้างอาชีพ รวมไปถึงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทั้งปัญหาขยะ น้ำเสียและอื่นๆ 


“ผลงานที่ผ่านมามีการจัดทำโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา เยาวชน ผู้สูงอายุ การดูแลสังคม การส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิม การตกแต่งและจัดระเบียบเมืองด้วยการนำสายไฟฟ้าลงดิน การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสวนสาธารณะปลายแหลมสะพานหินกับโครงการเลในเมือง หรือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย รวมถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 


จากการดำเนินงานต่างๆ ที่ผ่านมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเพื่อสร้างนครภูเก็ตให้เป็นนครแห่งความสุข และน่าอยู่อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ได้รับรางวัลจากสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งเป็นการประเมินว่าสิ่งที่ได้ดำเนินการพัฒนาเมืองนั้น ผู้ได้รับประโยชน์ คือ ประชาชน แต่สิ่งที่ต้องทำต่อไป คือ ทำจุดอ่อนต่างๆ ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น และจุดด้อยให้เป็นจุดเด่น ส่วนที่ดีอยู่แล้วจะต้องเต็มเติม ทั้งเรื่องการศึกษา สุขภาพ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ” 


น.ส.สมใจ กล่าวถึงการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ว่า โครงการที่ได้มีการเสนอต่อสภาฯ และประชาชนดำเนินการไปแล้วมากกว่า 90% ซึ่งทั้งหมดไม่ได้พูดเอง แต่โดยการติดตามประเมินผลของกิจกรรมโครงการ ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานั้นจะเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งจะต้องมีเกณฑ์การประเมินผล และได้ผ่านเกณฑ์ของเมืองน่าอยู่


“หากได้รับเลือกเข้าไปอีกครั้ง สิ่งแรกที่ต้องดำเนินการ ซึ่งต้องบอกว่า เรื่องการศึกษานั้นให้ความสำคัญอยู่แล้ว ขณะที่เรื่องของสิ่งแวดล้อมก็ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้จะเพิ่มความเข้มข้นในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขยะหรือน้ำเสีย หรือน้ำประปา นอกจากนี้จะสานต่อเรื่องการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจในเมือง รวมทั้งเพิ่มเติมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะการปรับปรุงถนนสายต่างๆ เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวน้อยมาก ไม่ใช่ไม่ให้ความสำคัญ แต่ต้องมาจัดลำดับก่อนหลัง” 


น.ส.สมใจ กล่าวด้วยว่า ในแต่ละปีเทศบาลฯ มีงบประมาณ 500 กว่าล้านบาท แต่เงินที่เหลือสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในช่วงปี 2551 และ 2552 ไม่มีเลย เริ่มมามีในปี 2553 และ 2554 จำนวนประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งค่อนข้างน้อย เพราะท้องถิ่นจะต้องดูแลประชาชนตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน หรือตั้งแต่เกิดจนถึงตาย เนื่องจากการเมืองระดับท้องถิ่นเป็นการเมืองที่ใกล้ชิดกับประชาชนอย่างมาก 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น