เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต น.ส.รัชต์ฆภัฎ ทนน้ำ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/66 หมู่ที่ 5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต กรณีบุตรชายอายุ 4 ขวบ ถูกครูพี่เลี้ยงคนหนึ่งของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลเกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว (อบต.เกาะแก้ว) ทำร้ายได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
น.ส.รัชต์ฆภัฎ เล่าว่า ในช่วงเย็นของวันดังกล่าวหลังจากบุตรชายกลับมาบ้านเห็นมีรอยแผลที่บริเวณใบหน้า ก็ได้สอบถามลูกชายว่าเป็นอะไร แต่เด็กก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งพยายามสอบถามจนได้ความว่า ในวันเกิดเหตุระหว่างที่น้องนั่งเล่นอยู่กับเพื่อน ได้มีครูพี่เลี้ยงเข้ามาตบที่ใบหน้าด้านซ้ายจนพลัดตกลงมาจากเก้าอี้ และครูพี่เลี้ยงสั่งห้ามไม่ให้บอกผู้ปกครอง หลังทราบเรื่องก็ไปร้องเรียนกับผู้บริหาร อบต.เกาะก้ว ซึ่งรับเรื่องไว้ ขณะเดียวกันก็ให้ยายของเด็กไปถามครูพี่เลี้ยงที่โรงเรียน ซึ่งเขาบอกว่าไม่ได้ทำร้ายน้องเพียงแต่เอามือไปลูบที่แก้มเฉยๆ ขณะเดียวกันแม่ของครูแม่เลี้ยงก็มาบอกว่า รอยที่แก้มเป็นแผลยุงกัด และในช่วงที่ยายของเด็กพาน้องไปที่ศูนย์เด็กเล็กฯ เพื่อขอลาหยุด น้องก็ชี้ให้ดูบริเวณที่ถูกครูพี่เลี้ยงทำร้าย พร้อมบอกด้วยว่าไม่อยากมาแล้วกลัวครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าวทำร้ายอีก นอกจากนี้น้องยังเล่าด้วยว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเคยถูกจับขังไว้ในห้องเรียนด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากร้องเรียนผู้บริหาร อบต.เกาะแก้วแล้วเรื่องยังเงียบอยู่ก็ได้ไปแจ้งความแต่ทางตำรวจก็ไม่ได้ให้เอกสารอะไรมา บอกเพียงว่าเดี๋ยวจะดำเนินการให้ ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร ด้วยกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากทราบว่าครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าวเป็นเครือญาติกับทางผู้บริหารศูนย์เด็กเล็กฯ จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรมฯ เพราะถูกข่มขู่ในทำนองว่าจะมีการไปเรียกเงินค่าเสียหาย ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเรียกค่าเสียหายอะไร แต่ขอให้ครูพี่เลี้ยงคนที่ก่อเหตุได้ออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ และให้ลูกชายได้กลับเข้าไปเรียนเหมือนเดิม น.ส.รัชต์ฆภัฎ กล่าว
ด้านนายเกื้อเกียรติ จิตต์เกื้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมของครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าว ทางอบต.เกาะแก้ว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ยังได้สั่งพักงานครูพี่เลี้ยงดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปโดยไม่มีกำหนด จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ หากผลสอบพบว่าครูดังกล่าวเป็นผู้กระทำความผิดก็จะให้ออกทันที และหากผลสอบออกมาว่าครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น