เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ที่บริเวณชายหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดงานวันรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล ครั้งที่ 3 โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา พลเอกสุรินทร์ พิกุลทอง ประธานสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน นางเตือนใจ ดีเทศน์ คณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป
ตลอดจนผู้แทนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม กรมเจ้าท่า กรมประมง มูลนิธิชุมชนไท เพื่อนเครือข่ายชุมชน และมีพี่น้องชาวเลจาก 5 จังหวัด ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา สตูล ตรังและกระบี่ เข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายนิรันดร์ หยังปาน คณะทำงานชาวเล เครือข่ายผู้ประสบภัยสึนามิและสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ต กล่าวถึงการจัดงานรวมชาติพันธุ์ดังกล่าว ว่า ชาวเลมอแกน มอแกลน และอูรักราโว้ย อาศัยอยู่ในฝั่งทะเลอันดามันมานานกว่า 300 ปี ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา สตูล ตรัง และกระบี่ มีประชากรรวมประมาณ 12,000 คน ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มมีปัญหาเหมือนกัน คือ นโยบายการพัฒนาที่ละเลยพวกเรา ทำให้พวกเราถูกแย่งชิงที่ดินและที่ทำกินในทะเล ประการแรก มาจากการพัฒนาการท่องเที่ยว
ทำให้ที่ดินราคาแพงขึ้น ส่งผลให้พวกเราถูกไล่ที่ ถูกเบียดออกจากที่ดินดั้งเดิม รวมถึงพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบพิธีกรรมและสุสานก็ถูกยึด ถูกรุกรานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ประการที่สอง การประกาศเขตอุทยานหรือเขตอนุรักษ์ทางทะเล ทำให้ชาวเลไม่มีสิทธิ์เข้าไปหากินในที่ทำกินดั้งเดิมที่เคยเข้าไปตั้งแต่บรรพบุรุษ
แม้ว่าเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553 จะมีมติ ครม.ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหาและฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล แต่ยังไม่เป็นจริง และมีแนวโน้มว่าปัญหาจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ปัญหาที่ดินอยู่อาศัย มีชาวเลถึง 25 ชุมชนที่มีโอกาสถูกไล่ที่ ทั้งที่ดินรัฐและที่ดินเอกชน โดยเฉพาะที่ชุมราไวย์ ภูเก็ต กำลังถูกฟ้องขับไล่จากเอกชนที่มาอ้างสิทธิเหนือที่ดิน แม้แต่ที่จัดงานซึ่งเป็นที่สาธารณะที่ใช้เดินเข้าออกและจอดเรือมายาวนานก็ถูกเอกชนอ้างสิทธิและพยายามไม่ให้ใช้พื้นที่ ขณะที่กลุ่มชาวเลชุมชนเกาะสิเหร่ แหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ก็กำลังมีปัญหาที่ดินนายทุนจากกรุงเทพฯ มาซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมจากผู้ที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิ ไม่ต่างจากกลุ่มชาวเลเกาะพีพี จ.กระบี่ ก็ไม่รู้ว่าจะอาศัยในที่ดินได้อีกนานแค่ไหน
ขณะที่ปัญหาในเรื่องสุสานและที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำพิธีกรรม มี 15 แห่งก็กำลังถูกรุกราน ไม่มีใครสนใจ และมีข่าวว่าพื้นที่พิธีกรรมหลาโต๊ะบูชา ที่ชุมชนเกาะสิเหร่ ถูกขายไปในราคาที่สูงมาก ส่วนของปัญหาที่ทำกินในทะเล ปัจจุบันชาวเลไม่มีสิทธิเข้าไปหากินในที่ทำกินดั้งเดิมที่ทำมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หลังมีมติครม. มีชาวเลถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับกุมพร้อมยึดเรือ อุปกรณ์ และสัตว์น้ำแล้วถึง 32 ราย ส่งผลให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน มีหนี้สินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้ต้องออกหากินไกลและดำน้ำลึก 30-50 เมตร
ส่งผลให้เกิดอาการน้ำหนีบ มีปัญหาต่อสุขภาพ ทำให้ชาวเลหลายคนต้องตายหรือพิการจากโรคดังกล่าว นอกจากนี้ชาวเลยังมีปัญหา เรื่องไม่มีบัตรประชาชน อีกกว่า 600 คน ปัญหาการศึกษา ภาษาและวัฒนธรรมกำลังสูญหาย อคติจากคนในสังคมรอบข้าง ซึ่งปัจจุบันเด็กเยาวชนชาวเลขาดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเองและปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นการจัดงานวันรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเลในวันนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายชาวเล ให้เกิดการฟื้นฟูประเพณี วัฒนธรรม รวมทั้งผลักดันการแก้ปัญหาชาวเลในระดับนโยบายให้เป็นจริง นายนิรันดร์ กล่าว
ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รับปากว่า จะเข้าไปดูแลแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โยจะมีการจัดระบบระเบียบและเรียงลำดับความสำคัญจากง่ายไปหายาก เรื่องใดที่สามารถทำได้ในทันทีก็พร้อมที่จะลงมือแก้ไข และจะมีการติดตามการทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่บางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายก็อาจจะต้องใช้เวลา ยืนยันว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และพร้อมเป็นตัวกลางในการประสานงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะเข้ามาดูแลแก้ปัญหาอย่างจริงจังต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น