จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

จับเรือประมงดัดแปลงพร้อมน้ำมันเถื่อน มูลค่า 3.5 ล.บาท



เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ที่บริเวณท่าเรือศุลกากร หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไพศาล ชื่นจิตร ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับชุดจับกุม แถลงข่าวการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมัน 1 ลำ ซึ่งภายในบรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 50,000 ลิตร มูลค่าของกลางรวมกว่า 3.5 ล้านบาท 


นายไพศาล กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงในเขตพื้นที่ภาคใต้ โดยนางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีกรมศุลกากร และสำนักสืบสวนและราบปราม เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม 


จนกระทั่งเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปรามที่ 2 (ปราบปรามทางทะเล) สามารถจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ โชคถาวร 8 สัญชาติไทย ขนาดความยาว 9 วา ความกว้าง 4 วา โดยในลำเรือได้ทำเป็นช่องสำหรับแช่ปลาจำนวน 3 ช่อง แต่ภายในบรรจุเป็นถังสำหรับใส่น้ำมัน โดยเรือลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีศุลกากร จำนวน รวม 50,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท มีนายวรพันธ์ สุภาวินิต อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดภูเก็ต เป็นนายเรือ และลูกเรือสัญชาติไทยอีก 3 คน ซึ่งมูลค่าของกลางรวมทั้งเรือและน้ำมันประมาณ 3.5 ล้านบาท 


เหตุเกิดบริเวณแลตติจูด 07 องศา 24 ลิปดา 195 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 23 ลิปดา 096 ฟิลิปดาตะวันออก ห่างจากเกาะราชาใหญ่ ด้านตะวันออกประมาณ 6 ไมล์ทะเล เขตจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีนายทุน เป็นผู้ว่าจ้างพวกตนให้มารับซื้อน้ำมันหลบหนีภาษีศุลกากรบริเวณน่านน้ำจังหวัดภูเก็ต – ระนอง 


จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมัน
ดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามมาตรา 27, 27 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16,17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 จึงได้ยึดน้ำมันและเรือบรรทุกน้ำมัน เป็นของกลาง พร้อมจับกุมตัวลูกเรือเป็นผู้ต้องหานำส่งศุลกากรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นายไพศาลกล่าว


นายไพศาล กล่าวด้วย สำหรับเรือดังกล่าวพึ่งจับกุมได้เป็นครั้งแรก ซึ่งนายเรือและลูกเรือเป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งก็จะได้มีการสืบสวนว่าผู้เป็นเจ้าของเรือมีส่วนเกี่ยวข้องดด้วยหรือไม่อย่างไร โดยน้ำมันดังกล่าวเท่าที่ตรวจสอบลักษณะของสี น่าจะเป็นการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย


อนึ่งในรอบปีที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถจับกุมน้ำมันที่ลักลอบนำเข้ามามา ประกอบด้วย น้ำมันดีเซล 663 ราย ปริมาณ 831,740 ลิตร มูลค่า 21,358,123 บาท น้ำมันเบนซิน 733 ราย ปริมาณ 729,540 ลิตร มูลค่า 22,999,428 บาท เฉพาะส่วนสืบสวนปราบปรามทางทะเลจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลทั้งสิ้น 7 ลำ ปริมาณ 501,000 ลิตร มูลค่า 15,030,000 บาท 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น