จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดีเอสไอบุกค้นโกดังเก็บสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์



เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2556 นายอุดม เพชรคุต ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ภาค 8 สนธิกำลังร่วมกับชุดเฉพาะกิจ กลุ่มงานความมั่นคงป้องกันจังหวัดภูเก็ต นำโดยนายธรรมรงค์ ช่วยจันทร์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต และกำลังเจ้าหน้าที่ อส. รวมประมาณ 30 นาย 


นำหมายศาลทรัพย์สินทางปัญญาจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 147/2556 เข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 168/16 และหมายศาลทรัพย์สินทางปัญญาจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 146 /2556 เข้าตรวจค้นอาคารเลขที่ 162/109 ภายในหมู่บ้านสุขเจริญ ซอยเจริญสุข ถ.ผังเมืองสาย ก. ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ภายหลังสืบทราบว่า อาคารทั้งสองหลังดังกล่าวถูกใช้เป็นโกดังในการจัดเก็บสินค้าปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร 


จากการตรวจค้นอาคารทั้ง 2 จุดดังกล่าว ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เบื้องต้นพบสินค้าปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้ายี่ห้อต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าสะพาย และเสื้อผ้า อาทิ โปโล หลุยวิคตรอง ดีเซล บิลลาบรอง พาด้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมตัวผู้ดูแลสินค้าได้รวม 7 คน ผลการตรวจเบื้องต้นสินค้าปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้มีจำนวนนับแสนชิ้น และมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้ต้องขอกำลังจากทางเทศบาลเมืองป่าตองมาช่วยในการขนสินค้า เพื่อนำไปตรวจนับอย่างละเอียด และจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ครอบครองต่อไป


นายอุดม กล่าวว่า ดีเอสไอมีหน้าที่ในการปราบปรามสินค้าปลอมและเลียนเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว ประกอบกับการสืบสวนหาข่าวพบว่ามีการลักลอบนำสินค้าละเมิดฯ มาเก็บไว้ในอาคารดังกล่าว จึงได้มีการสืบสวนหาข่าว และส่งเจ้าหน้าที่มาเฝ้าติดตามจนแน่ชัดว่ามีการนำสินค้าละเมิดมาเก็บไว้ในอาคารดังกล่าวจริงจึงได้ขอหมายจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาจังหวัดภูเก็ตเข้าทำการตรวจค้น และพบสินค้าเป็นจำนวนมาก 


ประกอบกับได้มีการแอบอ้างชื่อของดีเอสไอไปเรียกรับผลประโยชน์จากการกระทำผิดละเมิดเครื่องหมายการค้าด้วย ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายให้กับองค์กรเป็นอย่างมาก และเพื่อเป็นการยืนยันว่าทางดีเอสไอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ดังกล่าว จึงได้มีการสืบสวนหาข่าวจนพบแหล่งที่มีการนำสินค้ามาเก็บไว้ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่ามีสินค้ารวมทั้งสองอาคารจำนวนนับหมื่นชิ้น และมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท หลังจากนี้จะได้ทำการตรวจนับอย่างละเอียดและแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ครอบครองต่อไป 


“การตรวจค้นและจับกุมสินค้าละเมิดในโกดังครั้งนี้ นับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาค 8 และจะยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวรวมทั้งแหล่งเป้าหมายแล้ว เนื่องจากป่าตองเป็นพื้นที่ทีมีปัญหาการนำสินค้าละเมิดเข้ามาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยในการทำงานนั้นได้ประสานงานกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตมาโดยตลอด และมีการสนิกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว” นายอุดมกล่าว 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น