จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กมธ.เศรษฐกิจ สส.ห่วงปัญหาท่องเที่ยวภูเก็ต



เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายชนินทร์ รุ่งแสง ประธานกรรมาธิการฯ พร้อมคณะ เข้ารับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต 


ซึ่งมีนางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายเรวัต อารีรอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต นายจักรกฤษณ์ เอ่งฉ้วน ผู้ช่วยท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายสุชาติ หิรัณย์กนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ นายจงรักษ์ นฤขัตพิชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ตัวแทนหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 


โดยนายจักรกฤษณ์ กล่าวถึงภาพรวมด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ว่า จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดวิสัยทัศน์ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ บนพื้นฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งเรื่องคุณภาพและสิ่งแวดล้อม โดยจะต้องทำให้แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เป็นระดับนานาชาติ เพื่อรองรับ AEC ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ความเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทั้งการบินตรงและเช่าเหมาลำ ทำให้ในปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 10 ล้านคน และถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากลำดับต้นๆ คือ จีนกับรัสเซีย 


เนื่องจากภูเก็ตมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามในการเปิดประชาคมอาเซียนนั้นจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทักษะภาษาให้กับบุคลากรด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมการเรียนภาษาต่างประเทศตั้งแต่วัยเด็ก นอกจากนี้จะต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย การจัดให้มีระบบขนส่งจากสนามบินไปยังแหล่งท่องเที่ยว เพราะเชื่อว่าเมื่อมีการขยายสนามบินแล้วเสร็จในอนาคต จำนวนนักท่องเที่ยวก็เพิ่มมากขึ้น และจะมีการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนมากขึ้นตามไปด้วย 


ขณะที่นายสุชาติ หิรัณย์กนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวเสริมว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ตเติบโตเร็วมาก ปัจจุบันมีโรงแรมทั้งหมด 865 แห่ง จำนวน 67,000 ห้อง และจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 5,000 ห้องภายในปีนี้ ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอต่อจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเฉลี่ยปีละ 10 ล้านคน และจากการคาดการณ์ในปี 2557 จะเพิ่มขึ้นอีกเป็น 12 ล้านคน ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่อยากฝากให้คณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอไปยังรัฐบาลช่วย คือ มาตรฐานโรงแรม ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมที่มีใบอนุญาตประมาณ 200 แห่งจากกว่า 800 แห่ง 


ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ที่จอดรถไม่เพียงพอ การรักษาความปลอดภัย เป็นต้น จึงอยากผู้มีอำนาจเข้ามาตรวจสอบ ประกอบกับปัจจุบันพฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากเดิมมาก โดยมีการใช้จ่ายลดน้อยลง และมีการเข้าพักโรงแรมในระดับ 2-3 ดาวมากขึ้น ส่วนการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันนั้นส่งผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความรู้สึกของพนักงาน เพราะบางคนเข้าทำงานโดยไม่มีประสบการณ์ ได้ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แต่บางคนทำงานมานาน ได้เงินเดือน 10,000 บาท ทำให้ทางโรงแรมจำเป็นที่จะต้องเพิ่มขึ้นให้กับพนักงานเก่าด้วย 


นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า จากการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เติบโตตามไปด้วย และปัญหาหนึ่งที่ภูเก็ตกำลังประสบในลำดับต้นๆ คือ เรื่องการจราจร ปัญหาแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงาน เช่น การลงทะเบียน การซื้อตัวแรงงานของผู้ประกอบการ การออกเอกสารใบอนุญาตขับรถ เป็นต้น และปัญหาอื่นๆ ที่เป็นผลกระทบของผู้ประกอบการ 


นางสาวสมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวสรุปว่า การมารับฟังติดตามผลด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตของคณะกรรมาธิการฯ ในครั้งนี้ซึ่งมีหลายภาคส่วนร่วมให้ข้อมูล จะทำให้ทราบถึงปัญหาหลักของจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องการจราจร ซึ่งมีการเสนอแนะว่าควรจะสร้างถนนสายย่อยๆ ก่อน เพื่อช่วยในการระบายการจราจรในระหว่างที่มีก่อสร้างทางลอด รวมทั้งการเติบโตทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมต่างๆ ที่มีมากขึ้น และปัญหานักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมและผู้ให้บริการจะต้องปรับเปลี่ยนในเรื่องของการบริการด้วย 


ทางด้านนายชนินทร์ รุ่งแสง ประธานกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากการที่ได้รับฟังสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาและน่าเป็นห่วง คือ คุณภาพของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาโดยไร้ทิศทาง ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องพูดคุยและคิดไปในทิศทางเดียวกัน จะมองการพัฒนาแต่ตัวเลขอย่างเดียวและรายได้ที่เข้ามามหาศาลก็จะไม่ได้ เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะได้มาฟรีๆ จะต้องมีส่วนที่สูญเสียบ้าง และจะมองแต่นักท่องเที่ยวต่างประเทศอย่างเดียวก็คงไม่ได้ ควรจะหันมามองตลาดกลุ่มที่เป็นนักท่องเที่ยวไทยด้วย ซึ่งจะได้ประมวลปัญหาทั้งหมดส่งให้รัฐบาลพิจารณาและแก้ไขต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น