จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

รายได้จากตลาดไมซ์ ประมาณ 20,000 ล.มาจากสัมมนา




เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 ที่โรงแรมเมอเวนพิค รีสอร์ท แอนด์สปา กะรน บีช ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสุเมธ สุทัศน์ ณ อยุธยา นายกสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาส่งเสริมการประชุมนานาชาติ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2556 ซึ่งจัดโดยสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) โดยการสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 


โดยมีกลุ่มผู้จัดประชุมนานาชาติของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน สมาคมวิชาชีพต่างๆ รวมถึงกลุ่มผู้ให้บริการ อาทิ โรงแรม บริษัทนำเที่ยว บริษัทรับจัดประชุมและนิทรรศการ เป็นต้น เข้าร่วม นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับ ทั้งนี้มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาที่เกี่ยวข้องกับการประชุมนานาชาติ มาให้ความรู้และอภิปรายถึงขั้นตอนในการวางแผน รณรงค์เสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมและสัมมนานานาชาติ 


นายสุเมธ กล่าวว่า สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) เป็นสมาคมที่ได้รับการสนับสนุน จากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และกลุ่มสมาชิกที่อยู่ในอุตสาหกรรมไมซ์ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการจัดประชุมและนิทรรศการ เช่น โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การจัดประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เป็นต้น 


ปัจจุบันมีสมาชิก 320 หน่วยงานทั่วประเทศ และได้ตระหนักว่าการจัดประชุมนานาชาติในแต่ละครั้งจะนำรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมา และเป็นการสร้างงานให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง ผลักดันการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรม และยังก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และวิทยาการในสาขาต่างๆ รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยเป็นอย่างดี 


“เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการจัดประชุมสัมมนา และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความพร้อม ในการรองรับการจัดประชุม และสัมมนาระดับนานาชาติของประเทศไทย จึงได้จัดสัมมนาดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดประชุมระดับนานาชาติในประเทศมากขึ้นในอนาคต เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เข้าใจถึงแนวทางและขั้นตอนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติให้สัมฤทธิ์ผล 


รวมถึงนำเสนอความพร้อมและศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตในการเป็น MICE CITY นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ได้พบปะสนทนาเพื่อเสนอสินค้าและบริการแก่กลุ่มผู้จัดการประชุมนานาชาติด้วย” 


อย่างไรก็ตามนายสุเมธ กล่าวด้วยว่า ในปี 2556 ได้ตั้งเป้าว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมประชุมต่างๆ ในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 900,000 คน และมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าว เป็นรายได้จากการประชุมนานาชาติ 1 ใน 4 หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดที่ยังคงได้รับความนิยมและเป็นจุดหมายปลายทางของจัดการประชุมอันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 


เนื่องจากมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นยังคงเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวพักผ่อน แม้จะมีความพร้อมในเรื่องของที่พักต่างๆ แต่ยังขาดในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานด้านการอำนวยความสะดวก และยังไม่มีศูนย์ประชุมมารองรับ ซึ่งไม่จำเป็นต้องใหญ่มากนัก เพราะจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมที่จะมีการจัดประชุมค่อนข้างบ่อยประมาณ 90 % จะอยู่ที่จำนวน 100-2,000 คน 


หากมากกว่านั้นจะมีการจัดค่อนข้างน้อย ดังนั้นหากจะสร้างศูนย์ประชุมมารองรับตลาดไมซ์จะต้องคำนึงถึงความยืดหยุ่นในการใช้สอย นอกจากการจัดประชุมแล้วก็ควรจะต้องให้สามารถจัดแสดงนิทรรศการหรือการแสดงสินค้าต่างๆ ได้ด้วย และภูเก็ตก็ยังคงมีความเป็นไปได้ในการเจาะตลาดดังกล่าว เนื่องจากความได้เปรียบในเรื่องของโรงแรมที่พัก และสนามบิน ซึ่งก็อยู่ระหว่างการขยายให้รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น