จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

ภูเก็ตติวเข้มผู้ประกอบกาiรัสเซีย จีนและเกาหลี



เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2556 ที่ห้องประชุมออร์คิด คอนเวนชั่น ฮอลล์ โรงแรม ภูเก็ต ออร์คิด รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการจัดประชุม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการขอรับใบอนุญาตทำงาน 3 สัญชาติ (รัสเซีย เกาหลี และจีน) ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น

 

โดยมีนางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัดภูเก็ต นายนิมิตร ฆังคะจิตร พัฒนาธุรกิจและการค้าจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ตลอดจนนายจ้าง/สถานประกอบการต่างๆ และคนต่างด้าว เข้าร่วม ซึ่งในวันนี้ (2 ก.ย.56) เป็นการอบรมผู้ประกอบการชาวรัสเซียจำนวน 100 คน และในวันที่ 3 กันยายน จะเป็นผู้ประกอบการชาวเกาหลีและจีนเข้ารับการอบรมจำนวน 100 คน

นางเยาวภา พิบูลย์ผล จัดหางานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดทำโครงการประชุม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการขอรับใบอนุญาตทำงาน 3 สัญชาติ (รัสเซีย เกาหลี และจีน) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นายจ้าง/ สถานประกอบการต่างๆ และคนต่างด้าว ที่เข้ารับการสัมมนาแบ่งเป็นสัญชาติรัสเซีย จำนวน 100 คน สัญชาติเกาหลี 50 คน และสัญชาติจีน 50 คน

ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ2542 พระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 พระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509

และการให้ความรู้เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ เพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นเรื่องที่นายจ้าง/สถานประกอบการต่างๆ และคนต่างด้าวต้องทราบ ดังนั้นหากนายจ้าง/สถานประกอบการต่างๆ และคนต่างด้าว มีความรู้ความเข้าใจก็จะทำให้การทำผิดกฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานของคนต่างด้าวลดลงตามไปด้วย

ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับผู้ประชุมฯ ว่า ในส่วนของจังหวัดมีนโยบายที่จะต้องดำเนินการเกี่ยวกับการประกอบการของคนต่างด้าวใน 2 เรื่อง คือ การบังคับใช้กฎหมายต่างๆ อย่างถูกต้อง และเสมอภาค เช่น กฎหมายจัดหางาน กฎหมายการทำงานของคนต่างด้าว กฎหมายธุรกิจนำเที่ยว เป็นต้น กับการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจ


ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กันไป จึงจำเป็นที่ต้องเชิญผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐมาทำความเข้าใจร่วมกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน โดยเฉพาะกรณีเกิดความไม่เข้าใจก็จะได้สอบถามจากหน่วยงานที่รับผิดชอบได้โดยตรง


เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่านักท่องเที่ยวใน 3 สัญชาติดังกล่าวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรัสเซียจะมีปัญหาค่อนข้างมาก เนื่องจากไม่นิยมใช้ภาษาอังกฤษ ประกอบกับมัคคุเทศก์คนไทยภาษารัสเซียก็มีจำนวนไม่มาก จึงทำให้ผู้ประกอบการหันไปใช้บริการคนของตัวเอง และก่อให้เกิดปัญหาการละเมิดกฎหมายตามมา


อย่างไรก็ตาม นายไมตรี กล่าวด้วยว่า เนื่องจากมัคคุเทศก์ภาษารัสเซียมีไม่เพียงพอ จึงจำเป็นที่ต้องมีการพัฒนาบุคลากรของเราเองให้มีความรู้ความสามารถ รวมทั้งในระยะแรกอาจจำเป็นจะต้องใช้มัคคุเทศก์รัสเซียร่วมด้วย แต่ตั้งนี้จะต้องไม่ผิดกฎหมายของไทย ตลอดจนการดึงอาสาสมัครของแต่ละภาษามาร่วมให้ความรู้และช่วยเหลืองานราชการด้วย โดยเฉพาะการลงตรวจสอบพื้นที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น