เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2556 ที่ห้องจามจุรี 1 โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการประชุมผลการคัดเลือกแนวเส้นทางและรูปแบบที่เหมาะสม (ครั้งที่ 3) การศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น สำหรับแผนแม่บทการพัฒนา โครงข่ายทางหลวงจังหวัดภูเก็ต
โดยมีนายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ผู้นำชุมชน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้มีส่วนได้เสียจากการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงจังหวัดภูเก็ต และผู้แทนจากบริษัทที่ปรึกษาฯ เข้าร่วมประมาณ 100 คน
นายสมัคร เลือดวงหัด ผู้อำนวยการแขวงการทางภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันภูเก็ตเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว แต่เนื่องจากเส้นทางที่เข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวมีสภาพคดเคี้ยว และโครงข่ายทางหลวงของจังหวัดภูเก็ตไม่สามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดภูเก็ตได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดและอุบัติเหตุบนเส้นทาง และจุดตัดทางแยกต่างๆ
“กรมทางหลวง ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ตดังกล่าว จึงได้ว่าจ้างให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท ทรานส์คอนซัลท์ จำกัด บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ดำเนินการ เพื่อศึกษาและพัฒนาระบบโครงข่ายทางหลวงที่มีอยู่เดิมและเสนอแนะแนวทางการพัฒนาเส้นทางแนวใหม่ รวมทั้งจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในจังหวัดภูเก็ตขึ้น
เพื่อเป็นแนวทางสำหรับกรมทางหลวงในการดำเนินโครงการพัฒนาทางหลวงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดภูเก็ต โดยได้มีการประชุมปฐมนิเทศโครงการ (ครั้งที่1) เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554 และจัดประชุมเสนอบัญชีสรุปแผนงานโครงการและโครงการนำร่องแผนแม่บท (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2555
ซึ่งครั้งนี้เป็นการนำเสนอผลการคัดเลือกแนวเส้นทางและรูปแบบที่เหมาะสม (ครั้งที่3) และรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งผู้ศึกษาจะได้รวบรวมข้อคิดเห็นต่างๆ ไปพิจารณาประกอบการศึกษา ในงานระยะที่ 2 คือการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อไป” นายสมัครกล่าว
ขณะที่นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริมว่า การศึกษาหาแนวทางการแก้ไขและรูปแบบการปรับปรุงในการจัดทำแผนแม่บท การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงจังหวัดภูเก็ตอย่างเป็นระบบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนตัวของการจราจรภายในจังหวัดภูเก็ตให้เป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย ช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“ทางบริษัทที่ปรึกษาฯ ได้มีการนำเสนอผลการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการลงทุน และความคุ้มค่า รวมทั้งวิศวกรรมจราจรของเส้นทางหลักซึ่งเรียกว่าเส้นกระดูกสันหลัง หรือ 402 (เทพกระษัตรี) จะมีการทำถนนเส้นจากสนามบินภูเก็ตออกมาถึงสาคูมายังเกาะแก้ว ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร โดยจะมี 3 เส้นทางเลือก โดยเส้นทางที่เหมาะสมจะเป็นเส้นทางเลือกที่สอง ซึ่งคุ้มค่าต่อเศรษฐกิจ ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก และสามารถขยายเส้นทางได้เพิ่มเติมในอนาคต จะใช้งบก่อสร้างประมาณ 8,500 ล้านบาท
สำหรับเส้นทางเลือกที่สองนั้น จะมีการปรับปรุง/ขยายถนนเดิม เขตทาง 40 เมตร ซึ่งจะเป็นถนนช่วงทับถนนเดิม (ทางหลวงหมายเลข 4031) โดยจะเป็นการปรับปรุง/ขยายถนนเดิมจาก 2 ช่องจราจร เกาะกลางถนน ระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร เริ่มจากสามแยกสนามบิน - สาคู - บ้านนบปริง หลังจากนั้นจะเป็นการตัดถนนใหม่เชื่อมตั้งแต่บ้านนบปริง ผ่านบ้านพรุสมภาร บ้านดอน บ้านยา บ้านม่าหนิก โรงเรียนนานาชาติบริติช มาเชื่อมกับถนนบายพาส ที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต รวมระยะทางทั้งหมด 22 กิโลเมตร นายไมตรี กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น