จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

เปิดศาลเจ้ากวนอู บ้านนาบอน อย่างเป็นทางการ



เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 บริเวณมณฑลพิธีศาลเจ้ากวนอู (บ้านนาบอน) เลขที่ 64/2 หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายชวลิต ลีฬหาวงศ์ รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค 8 เป็นประธานในพิธี เปิดศาลเจ้ากวนอู (บ้านนาบอน) อย่างเป็นทางการ โดยมี พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ผู้นำชุมชนคณะกรรมการศาลเจ้ากวนอู และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก 


นายทนง องค์สันติภาพ ในนามประธานกรรมการบริหารศาลเจ้ากวนอู (บ้านนาบอน) กล่าวถึงที่มาของศาลเจ้าว่า ตามหลักฐานอ้างอิงศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุจากอดีตสู่ปัจจุบันประมาณ 129 ปี โดยได้รับการเล่าขานจากผู้อาวุโสว่า เดิมสถานที่แห่งนี้เป็นลำคลองอยู่ใกล้ทะเล ได้มีชาวจีนนั่งเรือสำเภามาจากประเทศจีน และมาขึ้นฝั่ง ณ ที่แห่งนี้ พร้อมได้นำรูปเหมือนองค์เทพเจ้ากวนอู เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์นำติดตัวมาด้วย และได้สร้างที่พักอาศัยหลังเล็กๆ อยู่พร้อมตั้งที่บูชาเทพเจ้ากวนอู เพื่อตนเองจะได้สักการบูชา 


ต่อมาชาวจีนดังกล่าวหายไป คงเหลือเพียงแต่องค์เทพเจ้ากวนอู ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงจึงได้พากันมาสักการบูชา บนบานศาลกล่าวขอความช่วยเหลือและประสบผลสำเร็จเกือบทุกราย จึงยิ่งทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธามากขึ้น จึงมีการรวบรวมเงินเพื่อจัดสร้างศาลเจ้าเป็นลักษณะก่ออิฐถือปูน สูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบนเป็นไม้ หลังคามุงจาก ตั้งประดิษฐานองค์เทพเจ้ากวนอูภายใน เพื่อรองรับการมาสักการบูชาของพี่น้องประชาชน 


หลังจากนั้นไม่นานเกิดเหตุมหัศจรรย์ขึ้นภายในศาลเจ้า คือ รอบๆ ที่ตั้งบูชาองค์เทพเจ้ากวนอู มีจอมปลวกเกิดขึ้น 4 ทิศ ขยายใหญ่ขึ้น ควบคู่กับความเจริญของศาลเจ้ามาตามลำดับ และเป็นที่น่าแปลกใจของชาวบ้านอย่างหนึ่ง คือ ตัวปลวกไม่กัดแทะกินส่วนที่เป็นเนื้อไม้ของศาลเจ้าแต่ประการใดจนถึงปัจจุบัน และในวันครบรอบคล้ายวันเกิดเทพเจ้ากวนอู ท่านได้ผ่านร่างประทับทรงเพื่อมารับการสักการบูชาจากชาวบ้าน พร้อมรับฟังเรื่องราวความทุกข์ร้อน ความเจ็บไข้ได้ป่วย 


การขอความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ของชาวบ้าน ได้รับความเมตตาเป็นอย่างสูงมาก องค์เทพเจ้ากวนอู ได้ให้ความช่วยเหลือในทุกโอกาสยังความเสื่อมใสอย่างต่อเนื่องไม่เสื่อมคลายจากรุ่นปู่ ย่า ตา ยาย สู่รุ่นลูกรุ่นหลานหลายชั่วอายุคนจนถึงปัจจุบัน 


ความศรัทธาของชาวบ้านก็เพิ่มทวีคูณตามความเจริญของบ้านเมือง และมีคณะกรรมการได้รับเลือกจากชาวบ้านดูแลให้ความช่วยเหลือจัดงานวันแซยิด (วันครบรอบคล้ายวันเกิด) ขององค์เทพเจ้ากวนอูหมุนเวียนสับเปลี่ยนมาจนถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2549 


คณะกรรมการฯ ได้จัดงานประเพณีพิธีถือศีลกินผักขึ้นเป็นครั้งแรก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีชาวบ้านในท้องถิ่นและจากต่างถิ่นมาร่วมกันเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการฯ จึงได้จัดติดต่อกันมาได้ 3 – 4 ปี แต่มีปัญหา คือ ตัวศาลเจ้าภายในคับแคบ และมีสภาพทรุดโทรม 


จึงมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจัดสร้างศาลเจ้าหลังใหม่ทดแทนหลังเก่า เพื่อรองรับความเจริญเติบโตของผู้ศรัทธา และผู้มาร่วมถือศีลกินผักที่เพิ่มขึ้นทุกปี จึงได้นำเรื่องดังกล่าวปรึกษาร่างทรงเทพเจ้ากวนอู ในช่วงกินผักปี 2552 และได้รับการอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารศาลเจ้าหลังใหม่แทนหลังเก่า 


ต่อมาในวันที่ 20 มกราคม 2553 ได้จัดให้มีพิธียกเสาเอก เพื่อจัดสร้างอาคารศาลเจ้าหลังใหม่โดยมีนายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต (สมัยนั้น) เป็นประธาน ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท โยได้รับความร่วมมือจากผู้มีจิตศรัทธาจากภาคส่วนต่างๆ จนทำให้การก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 ปีเศษ 


พร้อมกันนี้ทางคณะกรรมการฯ ได้เชิญชวนผู้ใจบุญร่วมเป็นเจ้าภาพจัดสร้างองค์เทพเจ้ากวนอู ความสูง 2.37 เมตร เทพเจ้าจู่ฉ้อง เทพเจ้าก่วนเป๋ง ซึ่งแกะสลักด้วยไม้หอมท่อนเดียวในแต่ละองค์ ณ มณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน งบประมาณ 3 ล้านบาทซึ่งได้รับการบริจาคครบตามจำนวน และทำการประกอบพิธีอัญเชิญเข้าไปประดิษฐานภายในศาลเจ้าด้วย นายทนงกล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น