เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2556 ที่ห้องประชุมจามจุรี 2 โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายอนุรักษ์ รุ่งเรือง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาภูเก็ต เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการเกิดวิกฤติการณ์ ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต (สพป.ภูเก็ต) จัดขึ้น
โดยมีวิทยากรจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต มาบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการสาธารณภัย สารเคมีและวัตถุอันตราย การจัดทำแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงาน กฎ/ความปลอดภัยและอันตรายต่างๆ จากสาธารณภัย ให้แก่ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 75 คน ได้รับทราบและถือเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป
นายเกรียงศักดิ์ นาคปาน ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แจ้งว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2556 นายกรัฐมนตรี รับทราบผลการประชุมวางแผนการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2556 และต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2556 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้เชิญผู้แทนจังหวัดเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการวางแผนการฝึกฯ
ผลของการประชุมได้กำหนดให้มีการฝึกวิกฤติการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2556 โดยขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แจ้งหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์วิกฤตการณ์ดังกล่าว ในการนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาภูเก็ต จึงได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการเกิดวิกฤติการณ์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิกฤติการณ์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
ขณะที่นายอนุรักษ์ รุ่งเรือง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษาภูเก็ต กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันภัยธรรมชาติจะมีความถี่และความรุนแรงมากขึ้น ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก และขยายเป็นวงกว้างในภูมิภาคเอเชีย โดยประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่อยู่ในความเสี่ยงดังกล่าว
ทำให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน หันมาให้ความสนใจ และให้ความสำคัญกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากภัยพิบัติเหล่านี้ให้น้อยที่สุด จึงได้ดำเนินการบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤติขององค์กรและสถานศึกษา เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานในภารกิจหลักหรืองานบริการที่สำคัญได้อย่างต่อเนื่อง
และการอบรมดังกล่าวเพื่อให้ผู้เข้ารับอบรมจะได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิกฤติการณ์ในรูปแบบภัยพิบัติธรรมชาติ ภัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ความมั่นคงของประเทศ สามารถแนะนำและถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคลากรในสังกัด และเป็นกำลังเสริมในการระงับ ป้องกันวิกฤติการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต สามารถนำไปใช้ในการบริหารจัดการในหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น