จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

Thailand Tourist Police Road Show 2013



เมื่อคืนวันที่ 14 กันยายน 2556 ที่บริเวณซอยบางลา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว เป็นประธานเปิดตัวโครงการ “Thailand Tourist Police Road Show 2013” เตรียมความพร้อมด้านการให้บริการและรักษาความปลอดภัย รองรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน พร้อมเปิดตัวรถประชาสัมพันธ์ตำรวจเคลื่อนที่ให้บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ตลอด 24 ชั่วโมง 


โดยมี พ.ต.ต.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 2 กองบังคับการ สถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยว เข้าร่วม โดยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่มาเดินเที่ยวบริเวณซอยบางลา ซึ่งถือเป็นย่านท่องเที่ยวยามราตรีของภูเก็ตเป็นอย่างมาก 


พ.ต.อ.อาชยน กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ของตำรวจท่องเที่ยว ที่มุ่งพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ความปลอดภัย ความเชื่อมั่น เพื่อเข้าถึงนักท่องเที่ยวในทุกๆ พื้นที่ของประเทศ ทำให้มีการพัฒนาบทบาทและหน้าที่ในหลายๆ ด้านมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Tourist Buddy Application เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Application บนสมาร์ทโฟน, การพัฒนาบริการของสายตรวจตำรวจท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการบริการด้วยรถไฟฟ้า Segway, การใช้รถจักรยานในพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และธรรมชาติ เช่น พื้นที่เมืองเก่าอยุธยา พื้นที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี พื้นที่รอบคูเมืองเชียงใหม่ เป็นต้น 


ซึ่งเป็นไปตามที่ตำรวจสายตรวจในประเทศที่เน้นการท่องเที่ยวปฏิบัติกัน สอดคล้องกับกระแสการลดใช้พลังงานของโลกและนโยบายรัฐบาล, ตลอดจนการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยว โดยการฝึกอบรมตำรวจท่องเที่ยวให้มีความชำนาญในภาษาต่างประเทศถึง 4 ภาษา ทั้งภาษาจีน ภาษารัสเซีย ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น และการศึกษาวัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวในแต่ละชาติ เพื่อกระตุ้นให้ตำรวจท่องเที่ยวมีความใกล้ชิดและเข้าถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น


“นอกจากนี้ตำรวจท่องเที่ยวยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และโครงการล่าสุด คือ ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดทำโครงการ “Thailand Tourist Police Road Show 2013” ขึ้นภายใต้แนวคิด “5 S” ได้แก่ SMART แต่งกายให้ดูดี SMILE ยิ้มแย้มแจ่มใส SERVE ให้บริการดูแลที่ดี SAFE ดูแลความปลอดภัย SECURE ให้ความอบอุ่นและมั่นใจ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นของการท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้นในสายตาชาวโลก” 


พ.ต.อ.อาชยน กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการ“Thailand Tourist Police Road Show 2013” จะนำร่องเดินสายโรดโชว์ไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบด้วย ภูเก็ต พัทยา หัวหินและอยุธยา ตลอดเดือนกันยายนนี้ พร้อมทั้งได้มีการนำเอารถประชาสัมพันธ์ตำรวจเคลื่อนที่ของตำรวจท่องเที่ยว เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือ ให้บริการข้อมูลความรู้ และดูแลความสงบเรียบร้อยให้แก่นักท่องเที่ยว


รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย มุ่งหวังให้ปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงลดน้อยลง ตลอดจนกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวไทยให้ขยายตัวสูงสุดในช่วงไฮซีซั่น ที่กำลังจะมาถึง และกระตุ้นให้ประชาชนชาวไทยรู้สึกตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบต่อนักท่องเที่ยวในฐานะเจ้าบ้านมากยิ่งขึ้นด้วย 


พ.ต.อ.อาชยน กล่าวเพิ่มเติมว่า รถประชาสัมพันธ์ตำรวจเคลื่อนที่ แบ่งการให้บริการออกเป็น 2 ประเภท คือรถโมบาย ซึ่งจะเป็นรถเอนกประสงค์ เหมือน Motor Home มีทั้งหมด 6 คัน ภายในประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ครัว ห้องอาบน้ำ ที่นั่งปรับเป็นเตียงนอน จอแอลซีดีขนาด 40 นิ้ว เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องถ่ายเอกสาร แฟกซ์ และกล้องวงจรปิดรอบคันเพื่อรักษาความปลอดภัย


นอกจากนี้ยังมีระบบการสื่อสาร สามารถประชุมระบบ Video Conference ถ่ายทอดภาพและเสียงไปยังศูนย์ฯ เพื่อสั่งการปฏิบัติได้ ส่วนรถเทรเลอร์ มีจำนวน 1 คัน จุดเด่น คือ ภายในตัวรถ เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ เคาน์เตอร์ปฏิบัติหน้าที่สำหรับเจ้าหน้าที่ 2 ท่าน เอกสารแผ่นพับประชาสัมพันธ์ อุปกรณ์สำหรับการประชาสัมพันธ์ทั้งระบบภาพ คือ จอแอลซีดี ขนาด 60 นิ้ว และระบบเสียง อุปกรณ์สืบค้น ข้อมูลดิจิตอล (ไอแพต) และให้บริการ Wi-Fi สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ตฟรีภายในรถ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ 


“รถประชาสัมพันธ์ตำรวจเคลื่อนที่ นับเป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ ช่วยให้ประชาชนรู้จักและรับรู้ถึงหน้าที่ความรับผิดชอบของตำรวจท่องเที่ยวในการดูแลนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือทุกคนต้องเข้ามีส่วนร่วมในฐานะเจ้าบ้าน ร่วมเป็นหูเป็นตาให้กับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความเชื่อมั่น และรู้สึกปลอดภัยเมื่อมาเที่ยวประเทศไทย 


ซึ่งในส่วนของการเพิ่มจำนวนรถโมบายนั้นคงต้องขอทดลองปฏิบัติงานไปอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อประมวลผล ซึ่งในการนำรถโมบายไปในแต่ละจุดนั้นจะมีการประสานกับทางตำรวจภูธรในพื้นที่ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อทราบความต้องการ เพราะการให้บริการดังกล่าวเป็นการเสริมและเป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อให้สามารถดูแลนักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดมากขึ้น” พ.ต.อ.อาชยน กล่าวในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น