จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กระทรวงยุติธรรมภูเก็ตจัดงานวันรพี


เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 53 ที่บริเวณด้านหน้าศาลแรงงานภาค 8 จ.ภูเก็ต นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ได้ประกอบพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 70 รูป พร้อมทั้งประกอบพิธีสดุดีเทิดพระเกียรติกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และวางพวงมาลาเนื่องในวันรพี ประจำปี 2553 โดยมีนางไทศิกา ไพรสงบ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต นายศุภศักดิ์ เยาว์วิวัฒน์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 8 นายสุพาทน์ สุชาตานนท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต นายก่อเกียรติ สุพลพงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแรงงานภาค 8 น.ส.ยุวิสส์ร์ชญา ยกซิ่ว ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแรงงานภาค 8 นางเมธินี ทิพย์มณเทียร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ตแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว นายไพศาล สุวรรณรักษา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต นายพิชัย ศรีจำนอง อัยการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมในพิธี จากนั้นได้มีการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตร หลานข้าราชการในกระทรวงยุติธรรม สังกัดจังหวัดภูเก็ตด้วย

สำหรับวันรพี ซึ่งตรงกับวันที่ 7 สิงหาคม ของทุกปี จะเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งนักกฎหมายยกย่องพระองค์เป็น “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” และเรียกกันว่า “วันรพี” ตามพระนามเดิมคือ “พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์” ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อวันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2417 ทรงไปศึกษาวิชากฎหมาย ณ สำนักไครสต์เชิร์ช มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ จนสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาเกียรตินิยม แล้วเสด็จกลับมารับราชการในประเทศไทย ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม

และดำรงตำแหน่งนายกสภาข้าหลวงพิเศษ ทำหน้าที่สะสางกฎหมายต่างๆ เนื่องจากกิจการศาลและกระทรวงยุติธรรมในสมัยนั้น ยังไม่เรียบร้อย เสด็จในกรมฯ ทรงสนพระทัย และหาหนทางในการปรับปรุงแก้ไขจัดระเบียบศาล และการยุติธรรมทั่วประเทศให้เรียบร้อย ทรงมีพระราชดำเนินในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว 2 แนวทาง คือการทำให้บ้านเมืองมีกฎหมายที่ดีและการทำศาลให้มีผู้พิพากษาที่ดี และมีคุณธรรม พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขกฎหมายวิธีพิจารณาคดีความแพ่ง กฎหมายวิธีพิจารณาคดี ความอาญาเสียใหม่ ทำให้ราชการศาลยุติธรรมของประเทศไทยเจริญมั่นคง ทัดเทียมนานาอารยประเทศ มาจนทุกวันนี้ และในปี พ.ศ.2462 พระองค์ทรงประชวรด้วยวัณโรคที่พระวักกะ ได้เสด็จไปรักษาพระองค์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2463 เวลา 21.00 น.พระชนม์มายุได้ 47 พรรษา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น