จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เยาวชนนอกสถานศึกษาไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด


เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 53 ที่ศาลาประชาคมจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง ภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการป้องกันเยาวชนนอกสถานศึกษาไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดประจำปี 2553 ซึ่งทางสำนักงานป้องกันจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม ประกอบด้วย เยาวชนที่อยู่ในความดูแลและติดตามช่วยเหลือป้องกันไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดภูเก็ต สถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอถลาง อำเภอกะทู้ และศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดภาคประชาชน จำนวนรวม 275 คน ซึ่งใช้ระยะเวลาในการอบรม ระหว่างวันที่ 4 – 5 สิงหาคม นี้

ทั้งนี้นายวิโรจน์ สุวรรณวงศ์ ป้องกันจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ซึ่งมีแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ไม่ได้ศึกษาอยู่ในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน จะมีความเสี่ยงสูงต่อการเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตลอดจนกลุ่มที่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แม้จะเลิกพฤติการณ์ไปแล้ว แต่หากไม่มีระบบเฝ้าระวัง ติดตาม ช่วยเหลือ ดูแลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อกลับสู่สังคมแล้ว ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ หรือสังคมไม่ให้การยอมรับก็อาจกลับไปมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก

“เพื่อเป็นการป้องกันและลดปัญหาดังกล่าว ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้กำหนดให้มีการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้โครงการป้องกันเยาวชนนอกสถานศึกษาไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 2553 เพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 รั้ว ป้องกันระยะที่ 2 ภายใต้ปฏิบัติการประเทศไทยเข้มแข็งเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน เพื่อวางกลไกระบบเฝ้าระวังปัญหาพฤติกรรมและปัจจัยเสี่ยง หรือปัจจัยลบต่อการเข้าไปใช้ยาเสพติดของเยาวชนกลุ่มเสี่ยง สร้างปัจจัยบวกหรือพื้นที่เชิงบวกให้กลุ่มเยาวชน ส่งเสริมสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ดูแลปัญหายาเสพติดเยาวชนกลุ่มเสี่ยง เป็นการสร้างภูมิต้านทานยาเสพติดให้แก่เยาวชนและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่มสร้างแกนนำเยาวชนพัฒนากิจกรรมสร้างสรรค์ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดและโทษภัยด้านอื่นๆ”

นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า หลังผ่านการอบรมไปแล้วจะสามารถพัฒนาเยาวชนกลุ่มเป้าหมายมิให้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับวงจรยาเสพติด ขยายค่านิยมของชุมชน สังคม ให้การยอมรับการดำรงชีวิตอย่างปกติของบุคคลที่เคยมีพฤติการณ์ด้านยาเสพติด หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมิให้วนกลับไปอีก นอกจากนี้ยังจะทำให้มีระบบติดตาม ช่วยเหลือ ดูแล ผู้เคยเกี่ยวข้องกับวงจรยาเสพติด พัฒนาความเข้มแข็งของครอบครัว ชุมชน สังคม ภายใต้คุณธรรม จริยธรรมตามหลักการขยายสถาปนาความมั่นคง ขยายสร้างความยั่งยืน ปรากฏผลเป็นรูปธรรมทั้งปริมาณและคุณภาพมากขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น