จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทรภ.3 พร้อมยิงสลุตหลวง ใน 5 ธันวามหาราช



เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2554 บริเวณเขาหน้ายักษ์ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยพล.ร.ต.พรชัย ปิ่นทอง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการในการซ้อมยิงสลุตหลวง ตามอนุมัติของ พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กองทหาร 3 เหล่าทัพ ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ จัดพิธียิงสลุตหลวงพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีกำหนดพิธีให้ตรงกับงานพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
โดยการซ้อมยิงสลุตหลวงจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 54 ทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้กำหนดจัดพิธียิงสลุตหลวงที่ฐานทัพเรือพังงา โดยจัดหมู่เรือออกเดินทางไปประกอบพิธีในทะเล โดยได้กำหนดหมู่เรือจำนวน 6 ลำ ได้แก่ เรือหลวงตาปี เป็นเรือนำในการยิงสลุต เรือหลวงคำรณสินธุ เป็นเรือติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ ส่วนเรือหลวงหัวหิน เรือหลวงมันนอก เรือหลวงริ้น และเรือตรวจการ 220 เป็นเรือติดตามขบวน โดยการยิงสลุตหลวงในครั้งนี้จะทำการยิง จำนวน 21 นัด
สำหรับการยิงปืนสลุต ซึ่งมาจากภาษาลาตินว่า Salutio เป็นแบบอย่างของการทำความเคารพต่อผู้ใหญ่ หรือประมุขของรัฐ การยิงจะใช้ปืนใหญ่ ส่วนสาเหตุการยิงสลุต 21 นัด ประเทศอังกฤษเป็นชาติแรกที่ได้วางกฎเอาไว้ ให้ชาติที่อ่อนแอกว่าทำความเคารพตนก่อน การยิงสลุต 21 นัด ถือเป็นสากลว่าแสดงความเคารพแก่ชาติและผู้เป็นประมุขของชาติ ในประเทศไทยเรียกว่า “สลุตหลวง”
สำหรับหลักเกณฑ์การยิงสลุตปัจจุบันพอสรุปได้ว่า ถ้าเป็นงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา งานพระราชพิธีฉัตรมงคล หรือวันพระราชสมภพสมเด็จพระบรมราชินีหรือสมเด็จพระยุพราช รวมถึงงานต้อนรับพระมหากษัตริย์ หรือประมุขแห่งรัฐ ยิงสลุตจำนวน 21 นัด ถ้าเป็นระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(ที่เป็นทหาร) ผู้บัญชาการทหารเรือ จอมพลเรือ และเอกอัครราชทูต ยิงสลุต 19 นัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(ที่เป็นพลเรือน) พลเรือเอก และเอกอัครราชทูตพิเศษ ยิงสลุต ๑๗ นัด
พลเรือโท และอัครราชทูต ยิงสลุต 15 นัด พลเรือตรี และราชทูต ยิงสลุต 13 นัด (สามเหล่าทัพยศเท่ากัน ยิงสลุตเท่ากัน) อุปทูตยิงสลุต 11 นัด กงสุลใหญ่ ยิงสลุต 9 นัดเป็นต้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น