จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ผัดฟ้องฝากขังผ่านระบบ Web Conference



เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 ที่ห้องประชุมวีระ จิรายุส ชั้น 3 ศาลจังหวัดภูเก็ต ได้มีพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการผัดฟ้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพด้วยระบบ Web Conference ระหว่าง ศาลจังหวัดภูเก็ต โดยนายอรรถการ ฟูเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยพล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต 


เรือนจังหวัดภูเก็ต โดยนายสฤษดิ์ สัจจารักษ์ นักทัณฑสถานวิทยาชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต และบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) โดยนายชัยยุทธ โรจนพิทยากุล ผู้จัดการ สาขาภูเก็ต โดยมีผู้กำการการสถานีตำรวจต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต คณะผู้พิพากษา คณะผู้ไกล่เกลี่ยประจำศาลจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนจากเรือนจำจังหวัดภูเก็ต และบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) สาขาภูเก็ต ร่วมเป็นสักขีพยาน 


นายอรรถการ ฟูเจริญ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ในการฝากขัง พนักงานสอบสวนจะต้องขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องมายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลด้วยตนเองทุกครั้ง และปัจจุบันมีสถานีตำรวจที่อยู่ในเขตอำนาจศาลจังหวัดภูเก็ตจำนวน 10 สถานี เนื่องจากปริมาณคดีที่เกิดขึ้นมีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งคดีมีความสลับซับซ้อน แต่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งในส่วนของพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่เรือนจำ และเจ้าหน้าที่ศาลมีน้อย ประกอบกับจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่รู้จักแพร่หลายในระดับโลก ซึ่งในช่วงการเดินทางนำผู้ต้องขังไปมาระหว่างเรือนจำจังหวัดภูเก็ตกับศาลจังหวัดภูเก็ตอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ 


“ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายและประหยัดงบประมาณแผ่นดิน รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ในองค์กรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ศาลจังหวัดภูเก็ต จึงได้ร่วมมือกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เรือนจำจังหวัดภูเก็ต และบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นำระบบเทคโนโลยีและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ในการผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาตั้งแต่ครั้งที่ 2 ระหว่างศาลจังหวัดภูเก็ต พนักงานสอบสวน และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต ด้วยระบบ Web Conference หรือระบบผัดฟ้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป” นายอรรถการกล่าว 


ขณะที่ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีมาใช่ในการปฏิบัติหน้าที่ถือเป็นเรื่องที่ดี และในการนำมาใช้กับการฝากขังผู้ต้องหาก็จะเป็นประโยชนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของการประหยัดเวลาในการเดินทางที่จะต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยังจะเป็นประโยชน์ในแง่ของการประชุมสั่งการต่างๆ ด้วย ดังนั้นขอให้ทางผู้ทำหน้าที่หัวหน้าสถานีหรือผู้กำกับของแต่ละสถานีไปเน้นย้ำพนักงานสอบสวนในการให้ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ และให้ระบบผัดฟ้องฝากขังทางไกลผ่านจอภาพให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วย 


ด้านนายสฤษดิ์ สัจจารักษ์ นักทัณฑสถานวิทยาชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต การนำระบบดังกล่าวมาใช้จะช่วยให้ลดปัญหาในระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะการหลบหนีของผู้ต้องขัง และเป็นการปอดโอกาสไม่ให้ผู้ต้องขังนำสิ่งของต้องห้ามหรือผิดกฎหมายกลับเข้าไปในเรือนจำได้อีกทางหนึ่งด้วย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น