เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2556 ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นาย Mark Kent เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นาย John A. Boer เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และนาย Philip Calvert เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย นำคณะเข้าเยี่ยมคารวะนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
ในโอกาสมารับตำแหน่งเอกราชทูตประจำประเทศไทยเมื่อไม่นาน พร้อมหารือเกี่ยวกับมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจังหวัดภูเก็ต และผู้ที่มาพำนักอยู่ในจังหวัดภูเก็ต โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยเข้าร่วมการหารือด้วย
ทั้งนี้คณะทูตานุทูตทั้ง 3 ชาติ ได้ชื่นชมการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัยซึ่งเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยเชื่อว่าจะเป็นการช่วยลดอัตราการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างเป็นรูปธรรม และแสดงความยินดีกับความคืบหน้าของการจัดระเบียบเจ็ตสกีและรถแท็กซี่ นอกจากนั้นยังได้ให้ข้อเสนอแนะจังหวัดภูเก็ตนำไปพิจารณาแก้ไขปัญหาการไม่มีป้ายบอกอัตราค่าโดยสารที่ชัดเจนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ปัญหาผู้ให้เช่าเจ็ตสกีเรียกร้องค่าชดเชยจากการขาดรายได้ กรณีเจ็ตสกีได้รับความเสียหาย
ปัญหารถแท็กซี่/รถตุ๊กตุ๊กจอดกีดขวางการจราจร โดยเฉพาะบริเวณหาดป่าตอง อ.กะทู้ ปัญหาสวัสดิภาพสัตว์ป่าที่ถูกนำมาจัดแสดงและถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวบริเวณถนนซอยบางลา หาดป่าตอง รวมถึงปัญหาชาวต่างชาติมาพำนัก/ลักลอบทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ต พร้อมทั้งได้ทั้งได้ยืนยันในการที่จะให้ความร่วมมือกับจังหวัดภูเก็ตในการดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปราม เพื่อมิให้มีการกระทำผิดกฏหมาย โดยคนของสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์และแคนาดาด้วย
นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังการเข้าพบและร่วมหารือความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตของทั้ง 3 ประเทศ ว่า ต่างมีความพึงพอใจกันเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งสามประเทศพร้อมที่จะให้ความร่วมมือช่วยเหลือจังหวัดภูเก็ต เพื่อที่จะยกระดับให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่น่าอยู่ และแจงให้ทูตฯ ทั้ง 3 ทราบว่า หากมีโครงการอะไรที่ไม่ใช่ขนาดใหญ่ก็ขอให้เข้ามาติดต่อกับทางจังหวัดได้โดยตรง เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน แต่หากเป็นโครงการขนาดใหญ่ก็จะต้องเสนอผ่านไปยังรัฐบาล
“เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 8 ล้านคน นับได้ว่าภูเก็ตเป็นศูนย์กลางของอันดามัน เมื่อนักท่องเที่ยวลงออกจากสนามบินก็สามารถที่จะเลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง นอกจากนี้ในทางนโยบายได้มีการหารือเรื่องการขยายสนามบินในเฟสที่ 3 เพื่อจะรองรับนักท่องเที่ยวให้ได้ทั่วฝั่งอันดามัน ส่วนของสิ่งแวดล้อมทางจังหวัดก็ได้ให้ทางหน่วยงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่ดูแลสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว ในการที่จะดูแลและรักษาสภาพแวดล้อมให้คงอยู่คู่กับภูเก็ตตลอดไป” นายไมตรีกล่าว
ด้านนาย Mark Kent เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักร ประจำประเทศไทย ได้มีการหารือความร่วมมือด้านการศึกษา โดยแจ้งว่าทาง British Council มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือเกี่ยวกับการฝึกอบรมในการใช้ภาษาอังกฤษให้กับกลุ่มแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนข้าราชการตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและยกระดับภาษาให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนชาวภูเก็ต
ขณะที่นาย Joan A.Bore เอกอัครราชทูตเนเธอแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตนั้น เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในจังหวัดภูเก็ตซึ่งก็เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน และยังคงมีการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเข้ามายังสถานทูตฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาของทางจังหวัดภูเก็ต มีความพอใจในระดับหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม และก็ขอแสดงความชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมาโดยตลอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น