เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2556 ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายมาร์ก คิน เอกอัครทูตประเทศอังกฤษ ประจำประเทศไทย และนายฟิลลิป คลาสเวอร์ เอกอัครทูตประเทศแคนนาดา ประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมหารือเกี่ยวกับมาตรการดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งขอบคุณตำรวจท่องเที่ยวที่ให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้พล.ต.ต.รอย กล่าวภายหลังการเข้าพบของเอกอัครราชทูตของสองประเทศดังกล่าวว่า การพบปะกันครั้งนี้ เพื่อมาแนะนำตัวในโอกาสที่มารับตำแหน่งใหม่ และได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ตลอดจนสอบถามข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ พร้อมทั้งได้ขอบคุณในการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวของทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ส่วนปัญหาต่างๆ
ที่เกิดขึ้นนั้นก็ได้มีการชี้แจงไปว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการแก้ไข
“ในส่วนของการป้องกันอาชญากรรมก็มีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการมีอาสาสมัครชาวต่างประเทศในการดูแลช่วยเหลือติดต่อสื่อสารและประสานงานระหว่างนักท่องเที่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงการกำหนดมาตรการต่างๆ ในการดูแลนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่เกิดกับนักท่องเที่ยวลดลง แต่เนื่องจากความรวดเร็วของการสื่อสารจึงทำให้มีการเผยแพร่ข้อมูลไปอย่างรวดเร็ว แต่ในความเป็นจริงจำนวนสถิติไมได้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้ชี้แจงให้กับเอกอัครราชทูตทั้งสองประเทศทราบ”
พล.ต.ต.รอย กล่าวด้วยว่า ภาพรวมของการหารือและการชี้แจงมาตรการต่างๆ ได้สร้างความพอใจให้กับเอกอัครราชทูตของทั้งสองประเทศ ซึ่งได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ของไทยที่มีการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีเรื่องร้องเรียนยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ โดยเฉพาะการรัดเอาเปรียบและหลอกลวงนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากคนส่วนน้อยและหวังเพียงผลประโยชน์ส่วนตัว ดังนั้นหากต้องการให้ปัญหาการร้องเรียนดังกล่าวหมดไป และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งก่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จำเป็นที่ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาร่วมกันดูแลนักท่องเที่ยว เพราะแม้ปัญหาจะเกิดจากคนเพียงส่วนน้อย แต่มีความเสียหายในภาพรวมของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมีการเผยแพร่ผ่านทางสื่อออนไลน์ ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่มีจำกัด แต่จำนวนนักท่องกลับเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จาก 15 ล้านคน เป็น 19 ล้านคนและเป็น 21 ล้านคน ซึ่งจะต้องมีการปรับกำลังให้เกิดความเหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น