จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ปทส.เก็บตัวอย่างเลือดลูกช้าง 2 เชือก ไปตรวจสอบ



เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 พ.ต.อ.วัชรินทร์ พุสิทธิ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผกก.6 บก.ปทส.) พร้อมด้วยนายเมธี มีชัย ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ท่าอากาศยานภูเก็ต กรมปศุสัตว์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจสอบและทำการเก็บตัวอย่างเลือดช้างต้องสงสัยว่า มีการสวมตั๋วรูปพรรณหรือมีการครอบครองช้างป่า จำนวน 2 จุด 


โดยรายแรกเข้าตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 139/4 บ้านยา ม.6 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง พบลูกช้างพลาย 1 เชือก ถูกล่ามไว้ข้างบ้านหลังดังกล่าว ตรวจสอบพบบัตรประจำตัวช้างชั่วคราว ออกโดยสถาบันวิจัยและบริการช้างแห่งชาติ สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุช้างเชือกดังกล่าวชื่อ พลายพิมาย ไมโครชิพหมายเลข 114761624A ออกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2554 ออกโดยนายทะเบียนอำเภอเมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ 


เมื่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ใช้เครื่องสแกนไมโครชิพที่ฝังไว้บริเวณหลังใบหู ปรากฏพบเลขไมโครชิพตรงกับหมายเลขที่ระบุไว้ในตั๋วรูปพรรณช้าง โดยมีสัตวแพทย์เก็บตัวอย่างเลือดกลับไปตรวจสอบเปรียบเทียบดีเอ็นเอกับพ่อแม่ช้างพร้อมกับอายัดช้างไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อรอผลการตรวจสอบ โดยมีนายทัศน์พล เหลาคม อายุ 54 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของ และบอกว่า ได้ซื้อช้างดังกล่าวมาจากปางช้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2554 ในราคา 800,000บาท ได้ตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่าถูกต้องจึงซื้อมา 


จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้ไปตรวจสอบที่ปางช้างไม่มีชื่อ บริเวณเทือกเขานาคเกิด ทางขึ้นพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ซอยยอดเสน่ห์ ม.10 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต พบลูกช้างเพศเมีย ชื่อ พังน้ำฝน อายุ 2 ปีเศษ พบตั๋วรูปพรรณช้างออกโดยนายทะเบียนอำเภอเมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 ระบุหมายเลขไมโครชิฟเลขที่ 115235791A 


ตรวจสอบสแกนไมโครชิพที่ฝังไว้บริเวณหลังใบหูพบตรงตามหมายเลขที่ระบุไว้ในตั๋วรูปพรรณช้าง พร้อมระบุรูปพรรณต่างๆ เช่น เล็บหน้า 9 หลัง 8 เป็นต้น จากนั้นสัตวแพทย์ได้เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำกลับไปตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอพ่อแม่ช้างต่อไป ซึ่งทางนายวสันต์ บุตรงาม ควาญช้างเชือกดังกล่าว บอกว่า เจ้าของอยู่ที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ โดยไม่ทราบว่าช้างดังกล่าวได้มาอย่างไร ตนมีหน้าที่ดูแลเท่านั้น 


พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เก็บตัวอย่างเลือดของลูกช้างทั้ง 2 เชือกนั้น สืบเนื่องมาจากปัญหาช้างป่าในพื้นที่แก่งกระจาน จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีการตรวจสอบพบตั๋วรูปพรรณช้างที่ออกในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และมีการลักลอบนำลูกช้างป่าไปทำการฝึกในพื้นที่ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา 3 เดือนจนเกิดความเชื่อง จากนั้นก็ได้มีการส่งขาย และมีควาญช้างในพื้นที่ จ.พังงา รับซื้อไว้ในราคา 5 แสนบาท และยังตรวจพบด้วยว่า มีการนำตั๋วรูปพรรณและไมโครชิพไปไว้ในปางช้างต่างๆ ในพื้นที่ จ.พังงาและภูเก็ต จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่า น่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง เพราะมีการออกตั๋วรูปพรรณก่อน 


“นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบการออกตั๋วรูปพรรณช้างในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โดยปลัดอำเภอและมีกำนันเป็นผู้แจ้ง จำนวน 61 ฉบับ และจากสืบสวนเพื่อตรวจสอบว่าตั๋วรูปพรรณดังกล่าวอยู่ที่ใดบ้าง โดยตรวจสอบควาญช้างอิสระรายหนึ่ง พบมีตั๋วรูปพรรณช้างอยู่ในครอบครองจำนวน 9 ฉบับ และไมโครชิพอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้มีการตรวจย้อนกลับไปหาที่มาของตั๋วรูปพรรณจำนวน 61 ฉบับ ที่มีการออกในพื้นที่ อ.เมืองชัยภูเก็ตดังกล่าว” 


พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบย้อนไปที่ตั๋วรูปพรรณ 61 ฉบับนั้นพบว่า มี 2 ฉบับที่มีการนำมาใช้ในปางช้าง จ.ภูเก็ต กับ จ.พังงา จึงได้ลงมาตรวจสอบเพื่อเก็บตัวอย่างเลือดของช้างที่ถูกระบุไว้ในตั๋วรูปพรรณ เพื่อนำไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอว่า ลูกช้างดังกล่าวเป็นลูกของช้างเชือกใด รวมทั้งการตรวจสอบเกี่ยวกับขั้นของการออกตั๋วรูปพรรณช้างว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร หากพบว่าไม่ถูกต้องก็จะได้มีการเสนอเพิกถอนตั๋วรูปพรรณดังกล่าว ส่วนของลูกช้างก็จะต้องมีการตรวจยึดและนำส่งให้กับกรมอุทยานฯ เพื่อดูแลต่อไป 


อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวยอมรับว่า เบื้องต้นที่มีการตรวจสอบลูกช้างทั้ง 2 เชือกนั้น จะมีใบตั๋วรูปพรรณที่ตรงกับลักษณ์ของลูกช้าง แต่ที่น่าจะไม่ถูกต้อง คือ อายุ เพราะตั๋วรูปพรรณออกมาระหว่างปี 2554 กับ 2555 ในขณะที่มีการระบุว่าลูกช้างมีอายุประมาณระหว่าง 2 ปีเศษ ถึง 3 ปีเศษ ซึ่งก็จะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น