เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2556 ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม การกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผกก.6 บก.ปทส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้นำไมโครชิฟซึ่งใช้ฝังนะตัวช้างจำนวน 1 อัน ซึ่งตรวจยึดได้จากปางช้างแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต
เข้าพบนายวีรสิฐ พุฒิไรจน์ ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ทำการตรวจสอบว่า ไมโครชิฟดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่และได้ถูกใช้งานไปแล้วหรือยัง รวมทั้งขอให้ตรวจสอบตั๋วรูปพรรณช้างอีกจำนวน 9 ฉบับ ว่ามีตัวช้างอยู่ในพื้นที่ตามที่ระบุไว้หรือไม่อย่างไร เพราะเบื้องต้นมีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมีการออกตั๋วรูปพรรณเพื่อรอหาตัวช้างมาสวม
นายวีรสิฐ กล่าวว่า คงยังไม่สามารถบอกได้ว่าไมโครชิฟดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ เพราะต้องรอผลตรวจอีกครั้ง เช่นเดียวกับตั๋วรูปพรรณก็คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบก่อน เนื่องจากผู้ออกตั๋วรูปพรรณนั้นเป็นหน้าที่ของทางฝ่ายปกครอง หากมีการตรวจสอบและพบว่าไม่ถูกต้องก็จะถูกดำเนินคดีในข้อเรื่องของเอกสารที่ไม่ถูกต้องหรือเอกสารเท็จ
อย่างไรก็ตามสำหรับจังหวัดภูเก็ตนั้นได้มีการจำกัดจำนวนช้างไว้ที่ 200 เชือก มาตั้งแต่ปี 2547 และที่ผ่านมาทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตจะมีการตรวจสอบช้างในแต่ละสถานประกอบการปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง หรือกรณีที่มีการร้องเรียนเข้ามา และจากการตรวจสอบประจำปีครั้งล่าสุดพบช้างจำนวน 2 เชือกที่ไม่มีการขออนุญาตนำเข้า และไม่เป็นไปตามหลักฐานที่กำหนด โดยได้มีการผลักดันออกไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับช้างในภูเก็ตคงไม่เกี่ยวกับเรื่องของกระบวนการค้าช้าง เนื่องจากช้างส่วนใหญ่จะเป็นช้างที่เช่ามาเพื่อให้ในกิจกรรมการท่องเที่ยวมีการการนำมาจัดแสดง และการนำไปไว้ในปางช้างเพื่อบริการนักท่องเที่ยว กรณีที่เป็นสถานประกอบการขนาดใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะจะมีระบบการจัดการที่ดี ส่วนที่พบว่าจะปัญหา คือ กรณีของปางช้างขนาดเล็ก ซึ่งไม่มีระบบการจัดการที่ดีพอจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะมูลช้างที่ไหลลงสู่ลำราง และถูกชะล้างเมื่อฝนตกลงมาสร้างความเสียหาย นายวีรสิฐกล่าว
ทางด้านพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวภายหลังนำไมโครชิฟและตั๋วรูปพรรณช้างมาให้ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตทำการตรวจสอบ ว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งดำเนินการตามพระกระแสรับสั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในการดูแลช้างซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองไม่ให้ถูกทำร้ายจากกระบวนการค้าช้าง
“จากการตรวจพบไมโครชิฟของช้างเชือกหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตก็คงต้องตรวจสอบร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ยังไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างจริงจัง หากพบว่าไม่ถูกต้องก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย” พล.ต.ต.ศรีวราห์กล่าว และยอมรับว่า สถานการณ์ช้างของภูเก็ตถือว่าน่าเป็นห่วงเช่นกัน และอาจจะมีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าช้างที่มีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน แต่คงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนของไมโครชิฟและตั๋วรูปพรรณช้างที่นำมาหารือกับทางปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตนั้นก็ต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร หากพบว่าไม่ถูกต้องก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น