จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สหกรณ์ฯ มุกอันดามัน ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม



เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2556 นายทรงธรรม เมฆมณี ประธานสหกรณ์บริการธุรกิจและท่องเที่ยวมุกอันดามัน จำกัด พร้อมด้วยนายอิทธิพล เมฆตะนี เลขาฯ และสมาชิก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรถแท็กซี่จำนวนหนึ่ง เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อจะยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต 


ขอให้แก้ปัญหากรณีสมาชิกสหกรณ์ฯ ไม่สามารถนำรถแท็กซี่เข้าไปให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานภูเก็ต ด้วยการวิ่งต่อท้ายบริษัท ภูเก็ตไม้ขาวสาคู จำกัด และสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จำนวน 50 คัน ตามที่ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ก่อนหน้าที่ เพื่อแก้ปัญหารถแท็กซี่ป้ายดำที่สนามบินภูเก็ตได้ แต่เนื่องจากผู้ว่าฯ ติดภารกิจไปร่วมกิจกรรมยุทธการต้านยุงลาย ที่กิ่งแก้ว ซอย 9 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ทำให้กลุ่มของสหกรณ์ฯ ต้องไปยื่นหนังสือในพื้นที่ดังกล่าวแทน 


อย่างไรก็ตามในการเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้ ทางสหกรณ์ฯ ได้นำสมาชิกที่เข้าไปรับผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานภูเก็ต และถูกกลุ่มแท็กซี่ที่มีอิทธิพลในพื้นที่ดังกล่าวทำร้ายร่างกาย มาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวด้วย และได้ฝากคำถามไปยังผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ว่า ปล่อยให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมระบุด้วยว่าในช่วงที่ผ่านมามีสมาชิกถูกทำร้ายแล้ว 4 – 5 ราย บางรายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ท่าฉัตรไชย แต่บางรายก็ไม่กล้าไปแจ้งความและต้องหยุดให้บริการเพราะกลัวอิทธิพล 


นายทรงธรรม กล่าวว่า การนำสมาชิกฯ มาพบและยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตนั้น เนื่องจากพวกเราได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถทำมาหากินได้ แม้ว่าที่ผ่านมาเราจะเป็นป้ายดำ แต่เมื่อจังหวัดมีนโยบายในการแก้ปัญหา เพื่อให้ดำเนินการให้ถูกต้องก็ได้ดำเนินการตามระเบียบและกฎกติกาของหน่วยงานราชการทุกประการ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้ถูกต้อง จนนำมาสู่ข้อตกลงว่าให้เราไปวิ่งต่อท้ายของบริษัท ภูเก็ตไม้ขาวสาคู จำกัด และสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต จำนวน 50 คัน แต่ก็ไม่สามารถทำตามข้อตกลงดังกล่าวได้ 


“ล่าสุดเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากการประชุมร่วมกับทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปว่าจะให้สมาชิกสหกรณ์ฯมุกอันดามันนำรถแท็กซี่ไปรับผู้โดยสารต่อท้าย บริษัท ภูเก็ตไม้ขาวสาคู จำกัด จำนวน 25 คัน โดยที่ทางขนส่งจังหวัดภูเก็ตจะเป็นผู้ประสานงานให้เรื่องของรุ่นรถที่จะนำไปรับผู้โดยสาร ซึ่งได้ส่งรายละเอียดไปให้ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถนำรถเข้าไปรับ-ส่งผู้โดยสารได้ โดยบริษัท ภูเก็ตไม้ขาวสาคูฯ ให้เหตุผลว่า ไม่สามารถรับรถทั้ง 25 คัน 


เนื่องจากขณะนี้มีรถแท็กซี่ในพื้นที่วิ่งต่อท้ายอยู่แล้ว และสามารถรับรถของกลุ่มอันดามันได้เพียงครึ่งเดียวหรือ 12 คันส่วนที่เหลือให้ไปวิ่งต่อท้ายสหกรณ์บริการรถยนต์บริการธุรกิจภูเก็ต แต่ทางสหกรณ์ฯ ดังกล่าวบอกว่าจะต้องมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปก่อน ซึ่งมองว่าการให้เหตุผลดังกล่าวเป็นเพียงการถ่วงเวลาและเป็นการกีดกันไม่ให้รถของสมาชิกมุกอันดามันเข้าไปรับผู้โดยสาร และที่ผ่านมาก็มีการบ่ายเบี่ยงมาตลอด” 


นายทรงธรรม ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้สมาชิกฯ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ส่งผลให้ขาดรายได้ในการผ่อนชำระค่างวดรถยนต์บางรายถูกยึดรถไปบ้างแล้ว และไม่มีรายได้ในการเลี้ยงครอบครัว ทั้งๆ ที่เป็นคนในพื้นที่ ต.ไม้ขาว ซึ่งอยู่บริเวณท่าอากาศยานภูเก็ตเช่นกัน จึงอยากขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าฯ ในการหาแนวทางเพื่อห้าสมาชิกฯ ได้เข้าไปรับส่งผู้โดยสารตามข้อตกลงที่ได้ทำไว้ก่อนหน้าที่ แต่หากไม่สามารถที่จะวิ่งต่อท้ายของสองบริษัทดังกล่าวได้ ก็ขอพื้นที่ตั้งโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ให้กลุ่มมุกอันดามันได้เข้าไปรับผู้โดยสารในท่าอากาศยานภูเก็ตได้ 


ด้านนายมุอัมมะการี จ๊ะเต๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 108/1 ม.9 ต.สาคู อ.ถลาง หนึ่งในสมาชิกสหกรณ์ฯ มุกอันดามันที่ถูกกลุ่มแท็กซี่อิทธิพลในท่าอากาศยานภูเก็ตทำร้ายร่างกาย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่กำลังเดินอยู่ที่บริเวณประตูผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ได้มีกลุ่มแท็กซี่ที่มีอิทธิพลประมาณ 4 - 5 คน เข้ามาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณไหล่และหู ซึ่งขณะนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของสนามบินภูเก็ตอยู่ด้วยแต่ไม่ได้มีการห้ามปรามแต่อย่างใด จนมีคนที่เห็นเหตุการณ์มาห้ามให้หยุด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยมีเรื่องหมาดหมางกับใครในสนามบินภูเก็ตมาก่อน จึงมองได้ว่าการทำร้ายร่างกายดังกล่าวเพื่อไม่ต้องการให้เข้าไปรับผู้โดยสารในสนามบินภูเก็ต 


ขณะที่นายมาโนช เทียมแสน สมาชิกสหกรณ์ฯ มุกอันดามันอีกคนที่ถูกทำร้ายร่างกายที่สนามบินภูเก็ต เช่นกัน เล่าว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมา ขณะที่เข้าไปในสนามบินภูเก็ตเพื่อรับผู้โดยสาร โดยยืนอยู่ใกล้กับเคาน์เตอร์แท็กซี่มิเตอร์ และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาถามหาแท็กซี่มิเตอร์ ก็ได้ชี้ไปที่เคาน์เตอร์ดังกล่าว ปรากฎว่ามีกลุ่มแท็กซี่อิทธิพล 3 คน ได้เข้ามาทำร้ายร่างกายตน จนตาเขียวและหัวปูด แต่ก็ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีซึ่งสำหรับตัวเองนั้นทำมาหากินอยู่ที่สนามบินมาหลายปีแล้ว หากไม่ให้ทำมาหากินที่นี่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำกินที่ไหน 


อย่างไรก็ตามนายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือขอความเป็นธรรมจากกลุ่มสหกรณ์ฯ อันดามัน ว่า ในการทำมาหากินนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องใช้หลักการแบ่งปันซึ่งกันและกัน โดยจะได้ไปหารือกับผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ดูแลและแก้ไขปัญหาต่อไป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น