เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 ที่ห้องแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมดีเอ็นเอดอท (DNA Dot) ดีเอ็นเอสำหรับรถยนต์ ซึ่งจัดโดย บริษัท ดาต้าดอทไทยแลนด์ จำกัด
ร่วมกับกองบังคับการปราบปราม และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ สนับสนุนโครงการ Lost car ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดขึ้น โดยมี พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิโซน่า กรุ๊ป จำกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ประกอบการเกี่ยวกับรถยนต์ในภูเก็ตเข้าร่วม
พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่า โครงการ Lostcar ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ดาต้าดอท ไทยแลนด์จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้านวัตกรรมดาต้าดอทดีเอ็นเอจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการป้องปรามการโจรกรรมรถยนต์ เปรียบเสมือนดีเอ็นเอให้แก่รถยนต์ ซึ่งการทำงานและประสิทธิภาพของดีเอ็นเอดอท จะเป็นเพียงอณุเล็กๆ ขนาด 1 มม. และแต่ละดอทหรือจุดเล็กๆนั้น จะมีรหัสเฉพาะของรถยนต์แต่ละคัน สามารถอ่านได้โดยใช้ไฟแบล็คไลท์เรืองแสง เพื่อหาจุดที่ดอทถูกพ่นอยู่ และตรวจสอบโดยใช้แว่นขยายพกพาขนาด 24 เท่าขึ้นไป
ทำให้ตำรวจหรือผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถนำรหัสดังกล่าวไปตรวจสอบ และบ่งชี้ข้อมูลเชิงลึก เช่น ชื่อและรายละเอียดข้อมูลผู้ครอบครองรถ เลขเครื่องยนต์ เป็นต้น เพื่อนำไปใช้ดำเนินคดีกรณีเกิดเหตุโจรกรรมรถยนต์ เนื่องจากปัจจุบันจะพบปัญหาในการสืบสวนคดีเกี่ยวกับการโจรกรรมรถ เช่น ไม่สามารถตรวจสอบที่มา เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถได้ เนื่องจากผู้กระทำผิดจะแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ หรือเครื่องหมายที่ระบุแหล่งที่มา การจัดเก็บหรือกระจายข้อมูลเกี่ยวกับรถหายมีความล่าช้า เป็นต้น
ทั้งนี้จากความร่วมมือดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการเปิดเวปไซต์ WWW.lostcar.go.th เพื่อเป็นฐานข้อมูลรถที่ถูกโจรกรรม การแจ้งสกัดจับและให้บริการข้อมูลกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานะของรถผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รวมทั้งเป็นศูนย์กลางรับแจ้งเบาะแสการโจรกรรมรถจากประชาชนด้วย
โดยมีสายด่วน 1599 จำนวน 10 คู่สาย มีหลักการทำงานควบคู่และสนับสนุน WWW.lostcar.go.th เพื่อให้บริการประชาชน ตำรวจและพนักงานสอบสวนในการแจ้งสกัดจับรถถูกโจรกรรม รถหายหรือติดตามรถ และส่งข้อมูลเอสเอ็มเอสให้จุดสกัดจับทั่วประเทศดำเนินการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสับเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พ.ต.อ.จิรภัทรกล่าว
ขณะที่นายไอเว่น ยับ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาต้าดอทไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า DNA Dot รถยนต์ เป็นนวัตกรรมจากประเทศออสเตรเลีย เพื่อเป็นการป้องปรามสิ่งที่ไม่อาจคาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ และด้วยเทคโนโลยี Dot จะช่วยบ่งชี้ข้อมูลความเป็นเจ้าของได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวไปแล้วในหลายพื้นที่ ซึ่งที่จังหวัดภูเก็ตได้แต่งตั้งให้บริษัท ฟิโซน่า กรุ๊ปจำกัด เป็นตัวแทนจำหน่าย
“ดาต้าดอทดีเอ็นเอ มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำมาจากโพลิเมอร์ทนความร้อนสูง และทุกสภาวะอากาศ มีขนาดเพียง 1 มม. โดยในแต่ละดอทจะมีข้อมูลสลักด้วยเลเซอร์ที่ทำให้ผู้ตรวจสอบสามารถเชื่อมไปหายังฐานข้อมูลของเจ้าของที่แท้จริงได้เปรียบเหมือนดีเอ็นเอของมนุษย์ และผสมกับกาวติดตั้งที่ผสมสารเรืองแสง โดยรถยนต์หนึ่งคันจะมีการฉีดดีเอ็นเอดอทจำนวน 48 จุด
และมีดีเอ็นเอดอทกระจายอยู่จำนวน 7,000 ดอท ซึ่งในการตรวจสอบรหัสดีเอ็นเอนั้นจะต้องใช้ไฟแบล็คไลท์เรืองแสง เนื่องจากดอทมีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าเมื่ออยู่บนพื้นผิว หรือตามห้องเครื่องของรถยนต์ จากนั้นจึงใช้กล้องขยายกำลัง 24 เท่าขึ้นไปในการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งจะสามารถเรียกตรวจสอบได้โดยตำรวจเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเมื่อมีการโจรกรรมเกิดขึ้น”
นายไอเว่น ยังกล่าวอีกว่า ดีเอ็นเอดอทที่ฉีดพ่นไปแล้วนั้นจะสามารถอยู่บนชิ้นส่วนของรถยนต์ได้นาน 20-25 ปี ซึ่งราคาค่าติดตั้งจะมีให้เลือก 3 โปรแกรมด้วยกัน คือ โปรแกรมแรก ราคา 6,900 บาท ติดตั้งเฉพาะดอท และดาต้าเก็บข้อมูล โปรแกรมที่ 2 ราคา 9,900 บาท จะเพิ่มในส่วนของประกันภัย 100,000 บาท เป็นเวลา 3 ปี หากรถถูกโจรกรรม และโปรแกรมที่ 3 ราคา 12,900 บาท เพิ่มประกันภัย 200,000 บาท เป็นเวลา 3 ปีเช่นกัน ส่วนกรณีที่เกิดปัญหาเครื่องยนต์เสียหายและจะต้องยกเครื่องใหม่จะมีดอทที่เหลือเก็บไว้สำรอง 1,000 ดอท
ซึ่งจะเป็นรหัสเดียวกับที่มีการฉีดพ่นครั้งแรก นอกจากนี้นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปก็จะมีการส่งฐานข้อมูลของรถที่มีการพ่นดีเอ็นเอดอทให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นฐานข้อมูล นอกจากนี้ก็จะมีการมอบอุปกรณ์ในการตรวจสอบหาดีเอ็นเอดอทให้กับสถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศด้วย เพื่อนำไปใช้ตรวจสอบกรณีมีปัญหารถถูกโจรกรรม ซึ่งขณะกลุ่มลุกค้าที่ใช้บริการมีทั้งเจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคล และบริษัทรถต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น