จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ติวเข้มผู้ปกครองเด็กบกพร่องทางพัฒนาการ



เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2556 ที่ห้องประชุมอาคารบ้านคุณพุ่ม ชั้น 6 โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการ “พัฒนาระบบบริการเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาในคลินิกบ้านคุณพุ่ม โรงพยาบาลศูนย์ วชิระภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 


สู่การเป็นหน่วยบริการด้านเด็กบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญาระดับตติยภูมิในภาคใต้ฝั่งตะวันตก” ซึ่งทาง กลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จัดขึ้น โดยมีคณะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต บุคลากรทางสาธารณสุข บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และผู้สนใจเข้าร่วม 
นายแพทย์ทัปปณ สัมปทณรักษ์ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านผลิตบุคลากรทางการแพทย์ รักษาการหัวหน้ากลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยโรงพยาบาลศูนย์วชิระภูเก็ต ได้เปิดให้บริการคลินิกบ้านคุณพุ่ม เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา และเปิดให้บริการคลินิกเด็กสมวัยอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2547 จนถึงปัจจุบัน พบว่า 


จำนวนผู้ป่วยเด็กที่มารับบริการในคลินิกเด็กสมวัย ด้วยลักษณะอาการพัฒนาการล่าช้า ปัญหาการเรียน และปัญหาความบกพร่องในด้านอื่นๆ ที่ไม่เป็นไปตามวัย มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวฯ ขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านความรู้เกี่ยวกับความบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา แนวทางการช่วยเหลือดูแลและสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเข้าอบรมฯ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งเพื่อให้เกิดเครือข่ายการประสานงานระหว่างบุคลากรด้านการศึกษาและบุคลากรสาธารณสุขอีกด้วย 


ขณะที่นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดให้บริการอาคารบ้านคุณพุ่ม มีคนไข้เด็กทั่วๆ ไป ประมาณ 3,000 กว่าราย พบว่ามีปัญหาด้านกายภาพ คือ ทางเวชกรรมฟื้นฟูประมาณ 300 กว่าราย และพัฒนาการเด็ก ประมาณ 300 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นกลุ่มสมาธิสั้นประมาณ 40 % ออทิสซึ่มประมาณ 20% ทักษะการเรียนบกพร่อง ประมาณ 20% พัฒนาการล่าช้าประมาณ 10% และปัญญาอ่อนประมาณ 5 % โดยเป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัดกว่า 40 ราย เนื่องจากทางกลุ่มสุขภาพจิตพยายามให้บ้านคุณพุ่มเป็นศูนย์พัฒนาการเด็กสมวัยของภาคใต้ ซึ่งในอนาคตหากมีการประชาสัมพันธ์ที่ดี เชื่อว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ 


“ความพร้อมในการรองรับเด็กกลุ่มต่างๆ ต้องยอมรับว่าเรามีนักจิตวิทยา และหมอเด็กที่จบใหม่เข้ามา แต่ยังขาดจิตแพทย์ ซึ่งทางกรมสุขภาพจิตรับปากไว้แล้วว่า หากมีปัญหาบุคลากรทางกรมฯ พร้อมจะส่งนักจิตวิทยาและสุขภาพจิตมาอยู่ประจำ นับเป็นเรื่องที่ดีที่จะได้มีการประสานความร่วมมือกัน แต่เด็กที่มีปัญหาทางพัฒนาการ ตัวหลักจริงๆ อยู่ที่ผู้ปกครอง หากมีความเข้าใจเด็กมาก การทำงานของโรงพยาบาลจะน้อยลง เพราะเด็กจะอยู่กับผู้ปกครองต่อวันมากที่สุด และที่สำคัญคือ ต้องทำให้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้” 


นายแพทย์เจษฎา กล่าวถึงแนวโน้มเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะออทิสซึ่ม ว่า มีข้อมูลในประเทศไทยในจำเด็ก 150 คน พบ 1 คน ในแต่ละปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ประมาณ 700,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้จะมีเด็กป่วยเป็นออทิสซึ่ม ประมาณ 8,000 คนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังไม่มีใครตอบได้ฉะนั้นในการรักษาจะใช้วิธีการแบบผสมผสานทั้งการใช้ยา และเทคนิคต่างๆ 


ทางด้านนายแพทย์ประเวศ ปรีดาชัยกุล จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวถึงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ว่า การรักษาของบ้านคุณพุ่ม จะเป็นการผสมผสานทั้งในส่วนของนักจิตวิทยาและเครื่องมือทางแพทย์ มีทั้งการใช้เครื่องกดความดันอากาศหรือแชมเบอร์ ซึ่งเป็นเครื่องช่วยเพิ่มออกซิเจนให้กับสมองเด็ก การใช้วารีบำบัด เครื่องเพิ่มสมาธิ ศิลปะบำบัด ดนตรีบำบัด และการแสดงละคร


โดยขณะนี้เรามีเด็กอยู่ในความดูแลแล้ว 300 คน และยังรอคิวอีก 200 คน ซึ่งในระหว่างที่รอก็จะมีการส่งไปกระตุ้นพัฒนาการก่อน เพื่อตรวจสอบว่าเด็กมีปัญหาทางพัฒนาการด้านใด โดยเด็กที่อยู่ในความดูแลส่วนใหญ่ จะเป็นเด็กในจังหวัดภูเก็ต รองลงมาเป็นเด็กในจังหวัดใกล้เคียง เช่น พังงา กระบี่ เป็นต้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น