เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2556 ที่บริเวณเนินเขาด้านหลัง หมู่บ้านเดอะวัลเล่ย์ 1 ม. 4 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.กะทู้ นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายวีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ นายอรรถพงษ์ จันทรัตนวงศ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ นายเฉลิม รักมาก เจ้าหน้าที่บริหารงาน 7 โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต นายศิริพงษ์ หลีประสิทธิ์ ปลัดอำเภอกะทู้ ตัวแทนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต
พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ อส.กะทู้, เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองกะทู้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพื้นที่แนวเทือกเขาพันธุรัตน์ซึ่งอยู่ด้านหลังที่ตั้งโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีนักวิชาการออกมาระบุว่าเป็น 1 ใน 4 ของพื้นที่เสี่ยงดินสไลด์ในเขต ต.กะทู้ และ เมื่อมองไปจากด้านนอกจะเห็นการขุดตักและปรับหน้าดินบริเวณเนินเขาดังกล่าว โดยมีนายบุญชู ดำรงกิจการวงศ์ ผู้บริหารโครงการเดอะวัลเล่ย์ นำภาพถ่ายดาวเทียมและหลักฐานต่างๆ มาชี้แจง
นายไมตรี กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ ว่า ด้วยทางจังหวัดมีความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาดินโคลนถล่มในพื้นที่ อ.กะทู้ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่มในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จำนวน 7 จุด และพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จำนวน 4 จุด ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแรกที่ลงมาตรวจสอบ และจะมีการตรวจสอบในจุดอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางในการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ประกอบกับในระยะนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีคลื่นแผ่นดินไหวเป็นระยะๆ ด้วย จึงต้องมีการเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ
“เนื่องจากบริเวณด้านล่างของพื้นที่แนวสันเขาดังกล่าวเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่มีจำนวน 300 ครอบครัว ซึ่งจากการชี้แจงของผู้บริหารโครงการเดอะวัลเล่ย์ ทราบว่าโครงการดังกล่าวได้มีการพัฒนามากว่า 10 ปีแล้ว และก่อนที่จะดำเนินการก็ได้มีการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหา และได้มีการจัดทำกำแพงกันดิน
แต่เนื่องจากปัจจุบันได้มีการปรับพื้นที่บริเวณสันเขาพันธุรักษ์ ซึ่งค่อนข้างมีความลาดชัน เกรงว่าจะมีผลกระทบจากฝนตกหนักและอาจจะเกิดปัญหาดินสไลด์ลงมาได้ จึงต้องเข้ามาขี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ รวมทั้งของรับทราบแนวทางการป้องกัน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้มีการให้ตรวจสอบทางธรณีวิทยาอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นให้กับประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ด้านล่าง”
นายไมตรี กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันภูเก็ตมีการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาไปมากเหมือนกับ จ.พังงาและระนอง การมาตรวจสอบครั้งนี้นับว่าเบาใจไปส่วนหนึ่ง เนื่องจากเจ้าของโครงการให้ความร่วมมือกับการป้องกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มความอุ่นใจให้กับประชาชนกว่า 300 ครัวเรือนในหมู่บ้านดังกล่าว
ทั้งนี้จะได้เน้นย้ำและเฝ้าระวังปัญหาดินถล่ม-ดินสไลด์และโคลนถล่มในทุกพื้นที่ ตลอดจนภัยจากทะเล รวมไปถึงภัยที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว สิ่งใดที่มีการทำหรือก่อสร้างบนเนินเขา-เชิงเขาส่งผลให้ดินมีการเปลี่ยนแปลงต้องหมั่นตรวจสอบ
ขณะที่นายบุญชู ดำรงกิจการวงศ์ ผู้บริหารระดับสูงโครงการเดอะวัลเล่ย์ กล่าวว่า สำหรับที่ตั้งโครงการเดิมเป็นที่ดินที่เคยทำเหมืองแร่มาก่อน และถูกปล่อยรกร้างมาเป็นเวลานาน จึงได้ตัดสินใจเข้ามาปรับพื้นที่และจัดทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา โดยก่อนที่จะมีการก่อสร้างก็ได้ขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
และทางคณะกรรมการฯ ได้แสดงความห่วงใยแนวคันดินที่เกิดจากากรทำเหมืองในอดีตเนื้อที่รวมประมาณ 14 ไร่ ซึ่งอยู่ด้านติดกับโครงการฯ เกรงจะถล่มลงมาก็ได้แก้ปัญหาด้วยการทำกำแพงกันดิน และที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่าหน่วยงานราชการควรสั่งให้มีการรื้อถอนคันดินดังกล่าว ออกไป เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น