จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประเพณีถือศีลกินผัก 2553 คาดมีเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท

ประเพณีถือศีลกินผัก 2553 คาดมีเงินสะพัดกว่า 200 ล้านบาท

นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต ว่า ด้วยในระหว่างวันที่ 8 – 16 ตุลาคม 2553 เป็นช่วงประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต ทางจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับศาลเจ้า (อ๊าม) ต่างๆ จำนวนประมาณ 20 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2553 ขึ้น เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวภูเก็ต ซึ่งในปีนี้จะมีกิจกรรมที่พิเศษกว่าปีที่ผ่านๆ มา โดยมีกิจกรรมหลัก 5 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 พิธีเปิดงานประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 7 ตุลาคม กิจกรรมที่ 2 ประกอบพิธีสวดมนต์ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวันที่สองของประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งตรงกับวันที่ 9 ตุลาคม กิจกรรมที่ 3 นิทรรศการเกี่ยวกับประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ตในระหว่างวันที่ 7 – 16 ตุลาคม กิจกรรมที่ 4 การจำหน่ายอาหารเจ และกิจกรรมที่ 5 กิจกรรมออกเยี่ยมเยียน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการจะร่วมรับประทานอาหารที่ศาลเจ้าต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต

ขณะที่นายประเสริฐ ฟักทองผล ประธานชมรมอ๊ามภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้อ๊ามต่างๆ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งในช่วงวันที่ 7 ตุลาคม 2553 นอกจากมีการประกอบพิธีเปิดงานประเพณีโดยปลัดกระทรวงวัฒนธรรมที่บริเวณเวทีกลางสะพานหินแล้ว ยังมีกลุ่มของช่างภาพที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศจำนวนประมาณ 26 คน มาร่วมเก็บภาพบรรยากาศของพิธีกรรมต่างๆ ตลอดทั้ง 9 วันจากนั้นจะนำภาพถ่ายงานประเพณีถือศีลกินผักของ 2 ปีที่ผ่านที่ช่างภาพได้ถ่ายไว้ มาจัดนิทรรศการที่บริเวณเวทีกลางสะพานหิน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถชมภาพได้ และทางบริษัท เอปสัน จำกัด ก็จะมาบริการถ่ายภาพ อัดภาพ ซึ่งค่าใช้จ่ายแล้วแต่ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวจะทำบุญ โดยเงินดังกล่าวจะมอบให้กับแต่ละอ๊ามนำไปใช้ในกิจกรรมของอ๊ามต่อไป

“ส่วนเรื่องการใช้อาวุธทิ่มแทงตามร่างกายของม้าทรงที่ร่วมขบวนแห่พระ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ที่เข้าร่วมประเพณีถือศีลกินผักและเป็นการสะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเอง เนื่องจากมีความเชื่อว่าร่างทรงต่างๆ นั้นเป็นผู้ที่หมดอายุขัยแล้ว และในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ได้มีการรณรงค์เกี่ยวกับการใช้ศัตราวุธที่มีในตำนานเท่านั้น ด้วยว่า โดยได้มีการขอความร่วมมือไปยังศาลเจ้าต่างๆ มาโดยตลอด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และในส่วนของอ๊ามก็ได้มีการจัดทำอาวุธตามตำนานเพื่อให้ม้าทรงมายืมไปใช้ได้ด้วย”

นายประเสริฐ กล่าวว่า ปัญหาที่มีการใช้อาวุธนอกเหนือจากที่มีอยู่ในตำนาน เป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากเพราะม้าทรงมีจำนวนมาก แม้ว่าจะมีการจัดทำทะเบียนม้าทรงแล้วในหลายศาลเจ้า แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังมีม้าทรงบางส่วนที่ไม่ได้สังกัดอยู่ในศาลเจ้าก็จะมาร่วมเข้าขบวนแห่พระในระหว่างทางหลังจากที่ขบวนแห่พระออกจากศาลเจ้าแล้ว ดังนั้นจึงขอความร่วมมือประชาชนชาวภูเก็ตในการร่วมกันตรวจสอบและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เพื่อป้องกันเรื่องการหลอกลวงประชาชน และขอยืนยันว่าการใช้อาวุธทิ่มแทงตามร่างกายของม้าทรงนั้นไม่ใช่เรื่องของการแสดงอภินิหาร แต่เป็นเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับการมีเคราะห์กรรมและเป็นการสะเดาะเคราะห์ทำเรื่องหนักให้เป็นเบาได้

ด้านน.ส.วรรณประภา สุขสมบูรณ์ ผช.ผอ.ททท.สำนักงานภูเก็ต ได้กล่าวว่า สำหรับการจัดงานประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ตในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาร่วมงาน ถือศีลกินผักจำนวนมาก โดยคาดว่าจำนวนตัวนักท่องเที่ยว และผู้ที่เข้าร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต ในปีนี้จะเพิ่มมากกว่าปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 10 %

สำหรับอัตราการจองห้องพักของภูเก็ตในช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 80% แต่ในช่วง 3 วันสุดท้ายของงานประเพณี อัตราการจองห้องพักของโรงแรมที่ขบวนแห่พระผ่านมีการจองเต็ม 100% และคาดว่าการจองห้องพักจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วงนี้ตรงกับช่วงปิดภาคเรียนของไทย และเป็นช่วงวันชาติของจีนซึ่งเป็นวันหยุดยาว

โดยในปีนี้มีเที่ยวบินที่เปิดใหม่ เพื่อนำนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักด้วย โดยในวันที่ 12 ต.ค.นี้ สายการบินไทยแอร์เอเชียเปิดบินเส้นทางภูเก็ต – อุบลราชธานี และสายการบินการ์ต้าที่เปิดเส้นทางบินจากเมืองโดฮา – กัวลาลัมเปอร์-ภูเก็ต เป็นเที่ยวบินประจำสัปดาห์ละ 6 เที่ยวบิน ซึ่งจากการเปิดสายการบินทั้ง 2 แห่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น

น.ส.วรรณประภา กล่าวต่อไปว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักในช่วงงานประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ตยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ฮ่องกง และคนไทยเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาร่วมเป็นประจำทุกปีและจองห้องพักล่วงหน้าเป็นปี

นอกจากนั้น ในช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวจากตลอดออสเตรเลีย อินเดีย และตะวันออกกลางเข้ามาเสริมด้วยซึ่งทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตคึกคักมากยิ่งขึ้น และคาดว่า งานประเพณีถือศีลกินผักที่จังหวัดภูเก็ตในปีนี้มีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น