จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ขบวนแห่พระงานประเพณีถือศีลกินผักวันแรกไม่คึกคักเท่าที่ควร


 

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 53 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2553 ของจังหวัดภูเก็ต บรรยากาศเริ่มที่จะคึกคักขึ้นเป็นลำดับ โดยในวันนี้ทางศาลเจ้าฮุนจงอ๊าม จ้อสู่ก้ง นาคา ซึ่งเป็นศาลเจ้าใหม่ที่ได้จัดให้มีการประกอบพิธีกรรมในการถือศีลกินผักเป็นปีที่ 2 ได้จัดให้มีพิธีอิ้วเก้ง หรือ แห่พระรอบเมืองของ

โดยขบวนพระออกจากศาลเจ้าซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณถนนดาวรุ่งตัดใหม่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต มายังถนนเจ้าฟ้าตะวันตก เลี้ยวเข้าถนนนาคา ตรงมายังถนนบางกอก เลี้ยวเข้าถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี มุ่งตรงไปยังปลายแหลมสะพานหินเพื่อประกอบพิธีอัญเชิญไฟศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อในอดีตว่ามีผู้รู้รับอาสาไปอัญเชิญเหี่ยวโห้ยหรือเหี่ยวเอี้ยน (ผงธูป) และเลี่ยนตุ่ย (ป้ายชื่อ) พร้อมทั้งคัมภีร์ต่างๆ ที่ใช้ในพิธีกินผัก จากมณฑลกังไส ประเทศจีน โดยตลอดเส้นทางที่ขบวนแห่พระผ่านได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวซึ่งต่างแต่งกายด้วยชุดขาวเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็เจ้าของอาคารบ้านเรือนตั้งโต๊ะน้ำชาเพื่อถวายให้กับร่างทรง เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย








ทั้งนี้ในส่วนของร่างทรงหรือม้าทรงนั้นมีจำนวนไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเป็นม้าทรงที่มีอายุไม่มาก จึงทำให้การใช้ศัตราวุธในการทิ่มแทงร่างกายซึ่งเชื่อว่าเพื่อเป็นการรับเคราะห์แทนผู้ที่มีเคราะห์กรรมหรือเป็นการสะเดาะเคราะห์ไม่ค่อยหวาดเสียวมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กแหลมขนาดต่างๆ กัน ตามตำนาน และบริเวณปลายก็จะมีช่อดอกไม้หรือผลไม้ประดับไว้ด้วย





อย่างไรก็ตามสำหรับการประกอบพิธีอิ้วเก้งหรือแห่พระรอบเมืองนั้น เชื่อว่าเป็นการออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์หรือทำนองเดียวกับการออกเยี่ยมราษฎรของพระมหากษัตริย์ โดยมีขบวนธง และป้ายชื่อแห่นำหน้า จากนั้นก็เป็นเกี้ยวหามรูปพระ เรียกว่าไท่เปี๋ยหรือเสลี่ยงเล็ก โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวไป จัดตามชั้นและยศของพระ เช่น ลิ่น ขึ้นไปเป็นง่วน โส่ย สูงขึ้นไปอีกเป็น ฮุด จากนั้นเป็นขบวนของพระเกี้ยวใหญ่หรือตั่วเหรียญ หรือเสลี่ยงใหญ่ ซึ่งมักใช้คน 8 คนหาม และมีฉัตรจีน หรือนิ่วสั่วกั้นไปด้วย ซึ่งเป็นที่ประทับกิ๊วฮ๋องฮุดโจ้ว และในขณะที่ขบวนแห่ผ่านไป ชาวบ้านจะตั้งโต๊ะบูชาหน้าบ้านและจุดประทัดต้อนรับขบวนเมื่อผ่านมาถึง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น