จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ผู้ว่าฯใหม่พร้อมสานต่อกงสุลใน จ.ภูเก็ต

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2553 ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ ประธานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งประเทศไทยภาคใต้ นำคณะกงสุล/กงสุลกิตติมศักดิ์ที่มีสำนักงานใน จ.ภูเก็ต จำนวน10 ประเทศ จากทั้งหมด 18 ประเทศที่มีสำนักงานในจังหวัดภูเก็ต เช่น สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก นอร์เวย์ อิตาลี ออสเตรเลีย เป็นต้น เข้าร่วมแสดงความยินดีกับนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตคนใหม่ ในโอกาสเดียวกันนี้ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ด้วย

โดยนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับคณะกงสุล/กงสุลกิตติมศักดิ์ที่เข้าพบเพื่อแสดงความยินดี ว่า พร้อมรับฟังปัญหาต่างๆ ที่จะมีการนำเสนอเข้ามา เพื่อจะได้นำไปขับเคลื่อนขยายผลในการแก้ปัญหาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลรักษาความปลอดภัย ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบ และปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว รวมทั้งยังจะได้สานต่อการจัดประชุมร่วมระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับกงสุล/กงสุลกิตติมศักดิ์ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ใน จ.ภูเก็ต

ขณะที่นายอนุรักษ์ ธารสิริโรจน์ ประธานกงสุลกิตติมศักดิ์แห่งประเทศไทยภาคใต้ กล่าวว่า คณะกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ใน จ.ภูเก็ต จำนวน 18 ประเทศ มีกำหนดประชุมร่วมหารือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกๆ 3 เดือน ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งต่อไปกำหนดให้มีขึ้นประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ เพื่อสะท้อนปัญหาต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวของแต่ละประเทศประสบอยู่ และจะได้มีการร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสม

“ที่ผ่านมาก็ได้มีการนำเสนอปัญหาไปแล้วหลายเรื่อง เช่น ปัญหาราคาอัตราค่าโดยสารรถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่ที่สูงจนเกินไป ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานภูเก็ต ปัญหาขนส่งมวลชน เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าในบางปัญหามีปัจจัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย รวมทั้งยังต้องอาศัยระยะเวลาและงบประมาณ เนื่องจากล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่สะสมมานาน และไม่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารืออย่างเป็นทางการ ดังนั้นการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานราชการกับกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ จึงนับเป็นนิมิตหมายและจุดเริ่มต้นที่ดีในการสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ร่วมกันหาทางออกต่อไป”

นายอนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากขณะนี้ใกล้ถึงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นแล้ว ซึ่งในช่วงดังกล่าวจะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นปัญหาเฉพาะหน้าที่อยากให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไข คือ ปัญหาความแออัดภายในท่าอากาศยานภูเก็ต โดยเฉพาะเครื่องเอ็กซเรย์ซึ่งมีจำนวนจำกัด จำนวนบุคลากรที่ให้บริการฝ่ายต่างๆ เป็นต้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น