จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

พิธีบวงสรวง “วันอาภากร” หรือ กรมหลวงชุมพร



เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555 ที่ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สะพานหิน จังหวัดภูเก็ต นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ต.สรวงสรร พินทุสมิต รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ประกอบพิธีบวงสรวง วันคล้ายวันประสูติของ พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ครบรอบ 132 ปี เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อ กองทัพเรือ และประเทศชาติ โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วม 


กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ข้าราชการ พี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีและระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อแผ่นดินนับอเนกประการ โดยกิจกรรมในวันนี้มีการประกาศพระเกียรติคุณเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติเสด็จในกรมฯ พระบิดาทหารเรือไทย พิธีบวงสรวงอัญเชิญดวงพระวิญญาณเสด็จในกรมฯ และองค์เทพต่างๆ ของคณะพราหมณ์และพิธีสงฆ์ พร้อมกันนี้ทหารกองเกียรติยศได้ยิงสลุตถวายจำนวน 19 นัดพร้อมจุดพลุและประทัดถวายเพื่อเทิดพระเกียรติฯ 


นอกจากนี้ที่บริเวณหน้าพระรูป ประภาคารกาญจนาภิเษกแหลมพรหมเทพ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ทางทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับเทศบาลตำบลราไวย์ และประชาชนในพื้นที่ ได้ประกอบพิธี วางพระมาลัยและพิธีบวงสรวงพระวิญญาณ ฯ พร้อมกันนี้ทหารกองเกียรติยศได้ยิงสลุตถวายจำนวน 19 นัด เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นำโดยพล.ร.ต.นฤดม ชวนะเสน รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3พร้อมด้วยนายนิกร ฟูศักดิ์สมบูรณ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ ทหารในกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาลตำบลราไวย์ และหน่วยงานทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ เข้าร่วมในพิธี 


สำหรับชีวประวัติของพล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2423 ทรงเป็นพระโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ และเจ้าจอมมารดาโหมด มีพระกนิษฐาและพระอนุชาร่วมพระมารดา 2 พระองค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงอรองค์อรรคยุพา และเจ้าสิริยง ประยูรพันธ์ ภายหลังเหตุการณ์ ร.ศ.112 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเล็งเห็นว่ากิจกรรมทหารเรือไทยในขณะนั้น ยังไม่มีความมั่นคง เนื่องจากนายทหารเรือที่เป็นคนไทย และมีความรู้ด้านวิชาการทหารเรือมีจำนวนน้อย ต้องว่าจ้างชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก มาปฏิบัติหน้าที่นายทหารในหน่วยต่างๆ ของกรมทหารเรือ ทั้งในหน่วยงานและในเรือหลวง


จึงได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ โดยตลอดระยะเวลาที่ทรงศึกษาอยู่นั้น ได้มีพระวิริยะอุตสาหะ จนปรากฏผลการศึกษาอยู่ในขั้นดีเยี่ยม จึงเป็นที่รักใคร่ของครู อาจารย์ และเป็นที่ยอมรับนับถือในความสามารถของชาวอังกฤษที่ได้ศึกษาร่วมกัน ด้วยพระหฤทัยอันแน่วแน่ที่จะปฏิรูปและพัฒนาการทหารเรือให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นหลักสำคัญในการป้องกันประเทศได้อย่างแท้จริง


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น