เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555 ที่ห้องประชุม 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประจำจังหวัดภูเก็ต และคณะอนุกรรมการประจำท้องที่ การจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะ ครั้งที่ 2/2555 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์สาธารณะของพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต อ.ถลาง และ อ.กะทู้
โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ปลัดอำเภอ ขนส่งจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบด้านการจราจรของแต่ละสถานี เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ผู้แทนชุมชน ผู้แทนผู้ใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะ และตัวแทนผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ (จักรยานยนต์รับจ้าง) เข้าร่วม
ทั้งนี้นายจำเริญ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญการจัดระเบียบกลุ่มอาชีพอาชีพต่างๆ กรณีการจัดระเบียบรถแท็กซี่ในจังหวัดภูเก็ตเริ่มเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด และตามที่จังหวัดภูเก็ตได้แต่งตั้งคณะกรรมการประจำจังหวัด เพื่อปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาจักรยานยนต์สาธารณะ และได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแต่ละท้องที่ด้วย
โดยในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ได้มีมติให้คณะอนุกรรมการแต่ละท้องที่ไปจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนรถจักรยานยนต์ที่ให้บริการทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่ถูกต้อง จำนวนคิวรถและที่ตั้ง และประวัติของผู้เป็นเจ้าของรถ นอกจากนี้ได้สั่งการให้หารือเรื่องการแต่งกายของผู้ขับรถในแต่ละคิว การจัดทำตารางราคาค่าโดยสารที่ชัดเจนและเป็นธรรมจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง การจัดให้มีหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับและผู้ซ้อนท้าย รวมถึงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการบริการและภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยว
“จากรายงานของคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 3 พื้นที่ ณ ปัจจุบันมีจำนวนจักรยานยนต์สาธารณะที่ให้บริการทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย มีจำนวนประมาณ 3,000 คัน มีคิว จำนวน 300 คิว ในจำนวนดังกล่าวมีรถที่ไม่ถูกต้องหรือยังเป็นรถป้ายขาวประมาณ 20 % ซึ่งได้สั่งการให้ไปดำเนินการเปลี่ยนจากป้ายขาวเป็นป้ายเหลืองให้เรียบร้อยภายในระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป พร้อมกันนี้ให้สำนักงานขนส่งฯ ไปจัดฝึกอบรมให้ความรู้กับผู้ขับรถ และจัดทำใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะให้ถูกต้อง”
นายจำเริญ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีคิวรถหลายแห่งที่ดำเนินการตามระเบียบกฎเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว โดยเฉพาะคิวรถขนาดใหญ่ เช่น บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร เป็นต้น ซึ่งในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมนี้ก็จะได้ไปออกตรวจติดตามการดำเนินการว่าเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ หากพบว่ายังมีการฝ่าฝืนทำผิดอยู่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ยกเว้นกรณีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนจากป้ายขาวเป็นป้ายเหลืองก็ให้ระยะเวลา 90 วันไปดำเนินการให้เรียบร้อย พร้อมกันนี้ก็จะได้มีการตรวจปัสสาวะของผู้ขับรถด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น