จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รองผู้ว่าสางข้อร้องเรียนอู่ซ่อมสปี๊ดโบ๊ทราไวย์



เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 2 เทศบาลตำบลราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี น.ส.สายฝน ณ ตะกั่วทุ่ง และพวก ชาวบ้านหมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการของบริษัท นนทศักดิ์ มารีน จำกัด 


ซึ่งมีการเปิดอู่เพื่อนำเรือเร็วมาซ่อมแซมภายหลังจากที่ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ซึ่งมีการร้องเรียน โดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด พลังงานจังหวัด ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนายประเจียด อักษรธรรมกุล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลราไวย์ นายสุริยะ ตามชู เจ้าของบริษัท นนทศักดิ์ มารีน จำกัด และตัวแทนกลุ่มผู้ถูกร้อง เข้าร่วม 


ทั้งนี้ด้วยชาวบ้าน หมู่ที่ 2 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตว่า ได้รับความเดือดร้อน จากการประกอบกิจการของบริษัท นนทศักดิ์ มารีน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนบริเวณสถานีอนามัยราไวย์ ( รพ.สต.ราไวย์) ราไวย์คอนโดเทล และห่างจากหาดราไวย์ไม่เกิน 800 เมตร ทำกิจการเปิดอู่เพื่อนำเรือเร็ว ( สปี๊ดโบ๊ท) มาซ่อมแซม มีการขัดสี พ่นสี เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกราย ส่งกลิ่นเหม็น ส่งเสียงดังจากการเลาะไม้ ไสกบไม้ กลิ่นเหม็นจากสารเคมี ต่างๆ เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งมีการขุดดินฝังถังเก็บน้ำมันไว้ใต้ดิน มีการถ่ายเทน้ำมันมาเก็บไว้ ซึ่งผู้ร้องเกรงว่าน้ำมันจะทำให้เกิดความเสียหายกับบ่อน้ำที่ชาวบ้านใช้อุปโภคบริโภค 


ขณะที่ตัวแทนของชาวบ้านทั้งนางสายฝน ณ ตะกั่วทุ่ง, นางบุปผา สาลี่และ นางอรวรรณ สาเก ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ความเดือดร้อนที่ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวได้รับ มี 3 เรื่องหลักๆ คือ กลิ่นเหม็นจากสี กลิ่นเหม็นจากน้ำมัน และเสียงดังรบกวนจากเครื่องยนต์และเครื่องเสียงของพนักงาน โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน นอกจากนี้ยังมีควันจากท่อไอเสียรถยนต์ที่มาจอดติดเครื่องไว้เป็นเวลานานด้วย 


ในส่วนของหน่วยว่าที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจงและให้ข้อเสนอแนะผู้ประกอบการภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการปลูกสร้างโรงเรือนกึ่งชั่วคราวและถาวร ในการประกอบการซ่อมแซมเรือ ซึ่งไม่พบใบอนุญาต ประกอบกิจการโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ซึ่งทางอุตสาหกรรมฯ ได้ลงตรวจสอบก่อนหน้านี้และได้สั่งให้ระงับการดำเนินการไปแล้ว และทางอุตสาหกรรมฯ จะได้ไปตรวจสอบรายละเอียดว่าการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายที่จะต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงงานหรือไม่ เช่นเดียวกับเรื่องของน้ำมันที่นำมาเก็บไว้ ซึ่งหาดมีปริมาณเกิน 200 ลิตร ก็จะต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องของกลิ่นสีหรือน้ำมัน รวมถึงเสียงดังรบกวนผู้ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เป็นเรื่องของเหตุรำคาญ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องไปดำเนินการบริหารจัดการให้ถูกต้องและลดปัญหาที่เกิดขึ้น 


ด้านนายสุริยะ ตามชู เจ้าของบริษัท นนทศักดิ์ มารีน จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเคยมีการประชุมร่วมกับทางเทศบาลฯ และชาวบ้านมาแล้ว ส่วนตัวคิดว่าการที่มีคนงานทำงานเพียง 5 คน และการนำเรือขึ้นมาเพื่อซ่อมบำรุง รักษาเครื่อง เปลี่ยนไม้ ขูดเพรียงและเก็บสีในอาคารที่ก่อสร้างแบบชั่วคราวปีละไม่เกิน 5 ลำ ไม่จำเป็นที่จะต้องขออนุญาตตั้งเป็นโรงงาน และทั้งหมดเป็นเรือของบริษัทฯ ไม่ได้รับจ้างแต่อย่างใด ส่วนของปริมาณน้ำมันที่นำมาเก็บไว้จำนวนมากหากเป็นปัญหาในเรื่องของขอกฎหมายในอนาคตก็จะสั่งในปริมาณน้อยลง รวมทั้งยืนยันว่าไม่ได้ละเลยที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น 


อย่างไรก็ตามนายสมเกียรติ กล่าวสรุปภายหลังจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอข้อมูล ว่า จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่ ปรากฏว่าเป็นไปตามที่มีการร้องเรียน จึงขอให้ผู้ประกอบการไปดำเนินการแก้ไขตามคำแนะนำของคณะกรมการฯ และในระยะนี้ก็ขอให้ชะลอการดำเนินการต่างๆ ไว้ก่อน จนกว่าผู้ประกอบการจะดำเนินการตามกฎหมายเสร็จสิ้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนของชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อนและผู้ประกอบการก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น