จำหน่ายอุปกรณ์แต่งรถ

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

จับผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ พบก่อคดีชิงทรัพย์อื้อ



เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมือง ภูเก็ต พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที และ พ.ต.อ.วิฑูร กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ ผกก.สภ.ถลาง พ.ต.อ.ชวลิต เพชรศรีเปีย ผกก.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต 


ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายวินัย สร้อยเสือ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมิโอ สีขาว ทะเบียน สฏ.ชลม-951 โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง นอกจากนี้ยังมีอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุคือ ขวาน และมีดพร้า ในข้อชิงทรัพย์ และพยายามชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายเอื้ออังกูร คมสม อายุ 18 ปี พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนชนิดไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 7 นัด ในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 


และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้แถลงข่าวนั้น ก็ได้มีผู้เสียหายได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา พร้อมทั้งได้ชีตัวผู้ต้องให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบ ก่อนที่จะมอบกระเช้าของขวัญให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความมีน้ำใจต่อเจ้าหน้าที่และเป็นขวัญพร้อมทั้งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย 


ทั้งนี้พล.ต.ต.โชติ ได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่สภ.วิชิต ได้รับแจ้งจากน.ส.อองตวน อารีไนซ์ อายุ 20 ปี ชาวฝรั่งเศส ว่า ได้มีคนร้าย ได้วิ่งราวทรัพย์ เป็นกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง โดยภายในกระเป๋ามีเงินสด โทรศัพท์มือถือ ของใช้ส่วนตัว เหตุเกิดที่สามแยกวัดเทพนิมิตร ถ.เทพอนุสรณ์ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต 


หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการตรวจสอบพร้อมทั้งออกทำการติดตาม จนสามารถจับกุมตัวนายวินัย สร้อยเสือ โดยความร่วมมือของประชาชนพื้นที่จากนั้นก็ได้นำตัวมาทำการสอบสวนขยายผลจาก ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุคดีชิงทรัพย์ ในพื้นที่ อ.ถลาง คดีวิ่งราวทรัพย์ ในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต และคดีลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมิโอ สีขาว ทะเบียน สฏ.ชลม-951 ในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต จำนวน 7 คดี 


จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก้ได้นำตัวนายวินัย ไปตรวจค้นภายห้องพักซึ่งเป็นแคมป์คนงานที่บ้านบางโจ เจ้าหน้าที่พบอาวุธที่ใช้ในการกระทำความผิด นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังพบนายเอื้ออังกูร คมสม อายุ 18 ปี พร้อมด้วยอาวุธปืน และกระสุนปืน จึงได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป


พล.ต.ต.โชติ กล่าวอีกว่า การจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในทุกคดี จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนในจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนในจังหวัดภูเก็ต เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นจะพยายามรักษาความปลอดภัย และควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ 


โดยในรอบเดือนที่ผ่านมาทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดย พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายสืบสวน และเป็นหัวหน้าทีมวิเคราะห์อาชญากรรม ก็ได้มีการระดมกำลังตำรวจ เราจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในลักษณะของวิ่งราวทรัพย์ โดยเฉพาะใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะได้หลายราย 


อย่างไรก็ตาม จากการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิฑูร กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ทำการขยายผล สอบสวนพยาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในทุกคดีที่ก่อเหตุ ก็ขอให้ดำเนินการขยายผลเพิ่มเติม ว่าผู้ต้องหารายนี้ ได้มีการก่อเหตุในพื้นที่อื่นในจังหวัดภูเก็ตอีกหรือไม่ เพื่อทางฝ่ายพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวน และดำเนินคดีครบทุกครั้งที่ก่อเหตุ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น